ผู้สมัครงาน
5 ข้อนี้ คือด่านแรกของการหางานเลยครับ
ต้องเขียนให้ HR อ่านแล้วอยากรู้จักและอยากสัมภาษณ์เราให้ได้
จะต้องทำยังไง ไปดูเทคนิคทั้ง 5 ข้อกันเลยครับ
1 ข้อมูลส่วนตัว : ครบถ้วน ติดต่อได้ รูปเหมาะสม เห็นแล้วอยากรู้จัก
เรซูเม่ที่มีข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อครบถ้วน จะช่วยให้ HR อยากอ่านข้อมูลส่วนถัดไปของคุณ ไม่ใช่ระบุมาแค่ชื่อ – สกุล เพราะข้อมูลทุกส่วนล้วนสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เช่น ที่อยู่ปัจจุบัน ,วัน/เดือน/ปีเกิด ,น้ำหนัก ,ส่วนสูง ฯลฯ
ส่วนข้อมูลการติดต่อทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์ ,อีเมล และหากเป็นไปได้ การระบุข้อมูลการติดต่อทาง Social Media เช่น Facebook, Line id ก็สามารถช่วยสร้างความน่าสนใจให้ HR ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
อีกส่วนที่สำคัญคือการใส่รูปถ่าย ซึ่งเป็น First Impression ที่จะทำให้ HR อยากหยิบเรซูเม่ของคุณขึ้นมาอ่าน โดยรูปที่ใช้ต้องเหมาะสม เป็นรูปในปัจจุบันที่เห็นใบหน้าชัดเจน ไม่เอียงหน้าไปข้างใดข้างนึง ถ้าไม่มีรูปถ่ายแบบเป็นทางการ สามารถถ่ายจากมือถือได้ แต่รูปที่ออกมาต้องอยู่ในรูปแบบที่เป็นทางการ คือหน้าตรง เห็นหน้าชัด อมยิ้มได้ แต่งกายสุภาพ ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นดำ ไม่ชู 2 นิ้ว และห้ามใช้รูปถ่ายเล่นเด็ดขาด
แต่ถ้าข้อมูลส่วนไหนไม่มีจริง ๆ ควรระบุไปเลยว่าไม่มี เช่น ยานพาหนะ ,ใบขับขี่ เพราะเป็นส่วนสำคัญต่อบางตำแหน่งงานที่ HR ต้องการทราบอย่างชัดเจน
แต่ถ้าเป็นการใส่ข้อมูลพื้นฐาน แนะนำว่าควรใส่ให้ครบ เพราะการเว้นข้อมูลไว้ อาจแสดงถึงความไม่จริงใจและไม่จริงจังต่อการหางาน และการที่ HR จะเลือกใครเข้ามาสัมภาษณ์จนถึงรับเข้าทำงาน ก็ต้องการทำความรู้จักบุคคลนั้นเป็นอย่างดี และต้องแน่ใจว่าคนนี้เหมาะสมที่สุด เพราะการที่จะต้องหาคนทำงานใหม่ทุกเดือนหรือ 3 เดือน นอกจากจะเสียเวลาการทำงาน ทาง HR ก็จะโดนตำหนิด้วยครับ
2 งานที่ต้องการ : มั่นใจเต็ม 100 อยากทำงานอะไร อยากได้เงินเดือนเท่าไร
บอกให้ชัดเลยว่าอยากทำงานในตำแหน่งใด แสดงความมั่นใจออกไปว่าคุณทำในตำแหน่งนี้ได้ ไม่ต้องกังวลว่าชื่อตำแหน่งจะไม่ตรงกับประกาศงาน เพราะมันไม่ได้ส่งผลเสียอะไรครับ ส่วนใหญ่แต่ละบริษัทก็ใช้ชื่อไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ใส่มาให้ครบคือดีสุด
ทั้งชื่อตำแหน่งงาน (ใส่ได้มากสุด 3 ตำแหน่ง) ,พื้นที่ที่ต้องการทำงาน ,เงินเดือนที่ต้องการ ,รูปแบบงานที่ต้องการ ,ระยะเวลาเริ่มงาน ,ยินดีทำงานต่างจังหวัด – ต่างประเทศ ใส่ว่าได้หรือไม่ได้ และรายละเอียดงานที่ต้องการ
ใส่เป็นข้อ ๆ เลย ว่าในตำแหน่งที่ต้องการ คุณสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้ HR มีข้อมูลเพียงพอต่อการนำไปพิจารณาเรียกสัมภาษณ์ ซึ่งจะส่งผลดีให้คุณได้งานที่ตรงใจ บวกกับเงินเดือนที่ใกล้เคียงหรือตรงกับที่ต้องการด้วยครับ
3 ประวัติการทำงาน / ฝึกงาน : โชว์ความสามารถผ่านประสบการณ์ อย่างละเอียด
โชว์ประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาแบบจัดหนักสุด ๆ เห็นได้ชัดเจนว่าเคยจับงานอะไรมาบ้าง ได้ทักษะอะไรมาบ้าง ส่วนนี้สำคัญมากที่สุดต่อการนำมาพิจารณาเลือกนัดคนมาสัมภาษณ์ครับ
ที่รู้กันว่าบริษัทส่วนใหญ่เลือกคนมีประสบการณ์เข้าทำงาน ถ้าเรามีข้อมูลส่วนนี้ครบชัดเจน เราก็คือคนที่บริษัทส่วนใหญ่ต้องการมากที่สุดครับ
โดยเฉพาะในส่วนของ หน้าที่รับผิดชอบ ควรระบุเป็นข้อ ๆ เรียงลงมา เพื่อความเป็นระเบียบและให้ HR ได้วิเคราะห์ทักษะความสามารถของคุณได้ง่ายขึ้นด้วย
น้อง ๆ จบใหม่ต้องนำข้อมูลการฝึกงานมาใส่ให้ครบถ้วนเช่นกันนะครับ ห้ามเว้นไว้เด็ดขาด ไม่งั้นน้องจะเป็นเด็กจบใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ ซึ่งก็คือเรซูเม่ที่หางานยากที่สุด ต้องจัดหนักจัดเต็มข้อมูล เพื่อแสดงสถานะให้ชัดเจนว่าพร้อมทำงานขั้นสุด ถึงเป็นเด็กจบใหม่ แต่ไม่ไร้ประสบการณ์เด้อจ้า
4 ประวัติการศึกษา : วุฒิ สาขา สถาบัน เกรดเฉลี่ย มาครบ
สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ถ้าขาดไป โอกาสได้นัดสัมภาษณ์แทบไม่เหลือเลย
กล้าโชว์ กล้าเปิดเผย มีวุฒิการศึกษาระดับใด เรียนสายอะไรมา จากสถาบันไหน เกรดเฉลี่ยเท่าไร ใส่มาให้ครบ
โดยเรียงจากวุฒิล่าสุดที่ได้รับ ลงไปจนถึงวุฒิม.ปลาย หรือม.ต้นก็ได้ครับ ทาง HR จะได้นำไปเทียบกับคุณสมบัติของคนทำงานตามที่ประกาศว่าตรงมากน้อยแค่ไหน
ถ้าไม่มีคำตอบในส่วนนี้ HR ก็ไม่มีข้อมูลสำหรับนำมาพิจารณา ด้วยเหตุผลนี้ โอกาสนัดสัมภาษณ์ของคุณก็หายไปอย่างง่ายดายเลยครับ
สุดท้ายยย โอกาสได้งานจะยิ่งสูงขึ้น ถ้ามีสิ่งนี้
5 ทักษะหลัก & ทักษะเพิ่มเติม : โชว์ทักษะที่นำมาใช้กับงาน แบบจัดเต็ม
ในเมื่อบอกตำแหน่งานที่ต้องการมาแล้ว ก็ต้องบอกด้วยว่า เรามีทักษะอะไรที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานนั้นบ้าง ระบุเป็นข้อๆ ไว้ในหัวข้อ ทักษะหลักตามสาขาอาชีพ (Hard Skills) เลยครับ
เช่น ตำแหน่ง Graphic Designer มีทักษะการใช้โปรแกรมใดบ้าง หรือมีทักษะในการออกแบบงานประเภทใด
รวมถึงทักษะเพิ่มเติม (Soft Skills) คือส่วนที่จะเพิ่มมูลค่าความสามารถของคุณได้สูงขึ้นมาก เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ต้องนำมาใช้ควบคู่กับการทำงานเช่นกัน ฉะนั้น คนที่มีทักษะนี้ โอกาสถูกเลือกมีมากกว่าแน่นอน
ระบุไปเลย ทักษะทางภาษา ใส่ได้มากกว่า 1 (ได้ภาษาอะไรบ้าง จัดให้ครบเลยนะครับ) โดยจะมีให้ระบุทักษะด้านการพูด การฟัง การอ่าน การเขียน ของแต่ละภาษาว่าอยู่ในเกณฑ์ไหน และ คะแนนทางภาษา เช่น TOEIC , TOEFL หรือ IELTS รวมถึง การพิมพ์ดีด พิมพ์ได้กี่คำ/นาที อย่าให้พลาดนะครับ
ถ้ามีครบทั้ง 5 ข้อที่ต้องหาทำแล้ว เตรียมตัวรับโทรศัพท์ เช็ก E-mail และเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งานได้เลย
ปล.จัดเวลาดี ๆ นะครับว่าจะไปบริษัทไหนก่อน ระวังเวลานัดชนกันครับ - _ ^
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด