จากการศึกษาบทความของอาจารย์สมชาย หลักคงคา ที่แนะนำเคล็ดลับความสำเร็จของงาน HR ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้นะคะ
1. มีความเป็นนักพยากรณ์ (Predictor)
พนักงาน ในองค์กรทุกคนต่างก็มีความคาดหวัง กับนักบริหารงานบุคคล มาทุกยุคสมัย ในเรื่องของการให้บริการที่รวดเร็วฉับไว โดยท่านพยากรณ์ได้จากความรู้สึกขั้นพื้นฐานในจิตใจของตัวท่านเอง หมายความว่า พนักงานก็มิได้รู้สึกอะไรที่ผิดแผกแตกต่าง ไปจากตัวท่านแต่ประการใด เช่น เมื่อพนักงานมาเบิกค่ารักษาพยาบาล ท่านก็แจ้งระยะเวลาในการดำเนินการในเบื้องต้นก่อน ไม่นิ่งเฉยหรือเพียงแค่รับเอกสาร การเบิกค่ารักษาพยาบาลเท่านั้นและจากนั้น ท่านก็แจ้งพนักงานก่อนที่พนักงานจะสอบถาม ว่าจะรับเงินได้เมื่อไหร่ ก็แปลว่าท่านได้สร้างความประทับใจให้กับพนักงานท่านนั้นไปโดยปริยาย
2. เป็นนักศึกษา (Educator)
หาก ท่านได้อ่านและศึกษาประวัติบุคคล ที่ประสบความสำเร็จ ในชีวิตการทำงานไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบอาชีพในสาขาใดๆ หรือวุฒิการศึกษา การทำงาน ก็ตามจะสังเกตได้ว่า เขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ใฝ่รู้ หมั่นศึกษา และติดตามวิวัฒนาการความก้าวหน้าของวิทยาการต่างๆ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขาผู้นั้นเป็นคนที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์ แถมยังเป็นผู้ให้คำปรึกษากับผู้อื่นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย การมีคุณสมบัติของนักศึกษา จะทำให้ตัวเราเป็นที่น่าศรัทธา น่าเชื่อถือ เปรียบเสมือนดั่งเราเป็นครูอาจารย์เป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ความรู้ให้กับลูกศิษย์ พนักงานก็จะให้ความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเรา
3. ผู้สร้างความเป็นสนุกสนาน ( Entertainer)
คนไทยส่วนใหญ่ ไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดงหรือวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ก็ตามคงไม่มีใครไม่รู้จักพี่เบิร์ดหรือป๋าเบิร์ด ( คุณธงไชย แมคอินไตย์ ) ศิลปินอมตะในดวงใจของใครหลายๆ คน ด้วยความที่พี่เบิร์ดเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยที่ดี สนุกสนานและมีมธุรสวาจา กับแฟนคลับของเขา ทำให้พี่เบิร์ดสามารถรักษาเข็มขัดแชมป์ และครองใจประชาชนมาได้ทุกยุคทุกสมัย เรียกว่ากระแสไม่เคยตกเลย ทุกครั้งที่มีการจัดคอนเสิร์ท บัตรก็จะจำหน่ายหมดภายในไม่เกิน 1 ชั่วโมง แถมบางครั้งต้องเพิ่มรอบการจัดคอนเสิร์ทอีกด้วยซ้ำไป ซึ่งนักบริหารงานบุคคลท่านใดที่สามารถสร้างความสุข ความสนุกสานให้กับพนักงานในองค์กร ของท่านได้แล้วไซร้ การจะขอความร่วมมือจากพนักงานให้เข้าร่วมโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ ก็จะไม่เป็นเรื่องยากแต่ประการใด เพราะพนักงานมีความรู้สึกว่า HR ท่านนั้น เป็นกันเอง สัมผัสได้ไม่สูงเกินเอื้อม พูดคุยได้อย่างสบายอกสบายใจ
4. เป็นนักสังเกตการณ์ ( Observer )
เวลาที่ท่านเจ็บป่วยและต้องไปโรงพยาบาล เพื่อรักษาพยาบาลตัวท่านเอง มีบางครั้งที่คุณหมอต้องให้ท่านเข้าพักอยู่ในห้องสังเกตอาการ เพื่อติดตามอาการของโรคนั้น ๆ นักบริหารงานบุคคลก็ไม่แตกต่างกับคุณหมอนะคะ ที่ต้องหมั่นคอยสังเกตอาการของพนักงานทุกคนในองค์กร ว่าคิดอย่างไร กับบริษัทฯ วิพากษ์วิจารณ์เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างานอย่างไร HR จะได้จ่ายยาได้ตรงกับอาการนั้นๆ การสังเกตการณ์ในเชิงพฤติกรรมศาสตร์ ผสมผสานกับหลักจิตวิทยา HR จะต้องแสดงพฤติกรรมในเชิงการเลียนแบบ (Simulator ) ยกตัวอย่างเช่น ต้องแสดงพฤติกรรมเป็นนักบัญชี ซึ่งหมายถึง ความละเอียดรอบคอบในการทำงาน การจ่ายเงินเดือนพนักงาน หรือ การตรวจสอบเอกสารต่างๆ บางครั้งต้องแสดงพฤติกรรมเป็นนักกฎหมาย ซึ่งหมายถึง ความเที่ยงตรงแม่นยำ และการเคารพ ในกฎกติกามารยาทขององค์กร หรือบางครั้ง ก็ต้องแสดงพฤติกรรมเป็นนักจัดชื้อ ซึ่งหมายถึงการเจรจาต่อรอง การสรรหาคัดเลือก ซึ่งหาก HR ท่านใดสามารถผสมผสาน ความเป็นนักสังเกตการณ์บวกกับ พฤติกรรมในการเลียนแบบได้อย่างกลมกลืนแล้วย่อมประสบความสำเร็จแน่นอน
5. เป็นผู้ให้กำลังใจ ( Encourager)
การดำรงชีวิตของพนักงานในองค์กร ย่อมจะพบกับอุปสรรคนานัปการซึ่งโดยส่วนใหญ่พนักงานมักจะไม่พบหนทางในการ แก้ไขปัญหาได้อย่างถูกวิธี มิหนำซ้ำ ยังดูถูกตนเอง ว่าเกิดมามีกรรม นามสกุลไม่ใหญ่โต ไม่มีมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความคิดที่บั่นทอนสุขภาพกาย และสุขภาพใจ ของตัวพนักงานเองทั้งสิ้น ดังนั้น นักบริหารงานบุคคลจะต้องเข้าใจถึงธรรมชาติความคิดของพนักงาน และเป็นผู้ให้กำลังใจ สร้างขวัญกำลังใจ และปรับเปลี่ยนทัศนคติของพนักงานให้เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง ศรัทธา และเชื่อมั่นในตนเอง และเป็นที่พึ่งของตนเองได้ ดั่งคำพระที่ว่า " อัตตาหิ อัตตโนนาโถ " หรือ " ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน " อีกทั้ง HR มือฉมังก็จะต้องประสบพบเจอกับความกดดันต่างๆ หลายประการในการบริหารงานบุคคล ก็จะต้องมี " อุเบกขา " หรือ ความอดทนอดกลั้น วางเฉยต่อสิ่งที่มากระทบต่อจิตใจ เป็นหลัก ยึดมั่น ก็จะทำให้ HR มีวัคซีนในตัวเองที่จะสร้างความเข้มแข็ง และความพร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ให้กับพนักงานและตนเองได้อย่างดีเยี่ยม
6. เป็นผู้กล้าหาญ (Braver )
หาก เราย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ในการทำศึกหรือที่เรียกว่าการทำยุทธหัตถี ซึ่งตำนานที่เลื่องลือมาจนถึงยุคปัจจุบันนั่นคือ ความกล้าหาญของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงรบชนะศึก กับพม่า นักบริหารงานบุคคลก็เช่นเดียวกัน ต่างก็ต้องสู้รบกับความคิดของพนักงานแต่ละตำแหน่ง แต่ละประสบการณ์ และต้องสวมวิญญาณความกล้าหาญที่พร้อมจะนำเสนอความคิดที่แตกต่างอย่างสร้าง สรรค์ และพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรและวัฒนธรรมความคิด ของพนักงานในองค์กร ซึ่งภารกิจดังกล่าวนี้ ในหลายๆ หน่วยงานมีวัฒนธรรมองค์กร และวัฒนธรรมความคิด ของพนักงานที่ฝังรากลึกมาเป็นเวลานานนับสิบปี และมักจะไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง หรือสนับสนุนความคิดใหม่ๆ เพราะกลัวว่าจะกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาโดยรวม ดังนั้น HR จะต้องรวบรวมความกล้าหาญและยึดมั่นในจรรยาบรรณในวิชาชีพ พร้อมทั้งพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ในเจตนารมณ์ที่ดี ที่จะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร และวัฒนธรรมความคิด ของพนักงานให้มีทัศนคติที่ถูกต้องเหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ ในยุคที่มีการแข่งขันอย่างสูงในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของการบริหารทรัพยากรบุคคล ซึ่งนับวันจะเป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จ ของทุกๆองค์กรในโลกแห่งยุคโลกาภิวัตน์
หากนักบริหารงานบุคคลนำเคล็ดลับทั้ง 6 ประการข้างต้น มาใช้เป็นกลยุทธ์ในการปฏิบัติงานอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ ความสำเร็จของงาน HR ก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้บริหารในอนาคต หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะพาองค์กรของท่านสู่ความสำเร็จ
เครดิต http://www.gotoknow.org/posts/272104