กลิ่นอายของการเฉลิมฉลองวันปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีนยังไม่จางหาย เชื่อว่าทุกบ้านยังคงเที่ยวฉลองปีใหม่กันอย่างคึกคัก และสำหรับใครที่ไม่มีเชื้อสายจีนก็เที่ยวเสริมเฮงได้เหมือนกัน ไม่ผิดกติกา ว่าแต่จะเที่ยวในเทศกาลตรุษจีนทั้งที ก็ต้องไปในสถานที่ที่เข้ากับบรรยากาศเสียหน่อย อย่ากระนั้นเลย ไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปเที่ยวเพลินๆ เดินไหว้เจ้า ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคลในย่านเยาวราชกันดีกว่า
ถนนเยาวราช นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายของผู้คน และอาหารอร่อยเต็มไปทุกซอกซอยแล้ว ยังมีวัดจีน วัดไทย และศาลเจ้าอยู่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งล้วนแต่มีสถาปัตยกรรมสวยงามโดดเด่น และเป็นที่เคารพของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ที่อาศัยอยู่ในย่านนี้จำนวนมาก ต่อไปนี้คือ 5 วัด เสริมดวงที่คุณไม่ควรพลาด หากไปเที่ยวที่เยาวราชล่ะก็ อย่าลืมไปสักการะขอพรให้ร่ำรวยเงินทองต้อนรับปีแพะทองกันด้วยนะจ๊ะ
1. วัดเล่งเน่ยยี่
วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ระหว่าง ซอยเจริญกรุง 19 และ 21 ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นวัดจีนเก่าแก่ของย่านเยาวราช ที่ไม่ว่าใครก็จะต้องไม่พลาดที่จะเดินทางมาชมความสวยงามด้านใน นอกจากนี้ยังเป็นวัดเพียงไม่กี่แห่งที่เปิดให้ประชาชนเข้ามาทำพิธีสะเดาะเคราะห์แก้ชงทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.
วัดเล่งเน่ยยี่ที่ใครๆ ก็ต้องมา
มาไหว้พระรับปีใหม่กัน
สำหรับปีนี้ ดวงที่ชงกับปีแพะ ได้แก่ ปีมะแม มะโรง ฉลู ชวด และจอ ใครที่อยากแก้ชงก็มักจะหลั่งไหลกันมาที่นี่ไม่ขาดสาย ส่วนนักท่องเที่ยวทั่วไปแม้ไม่ได้มาแก้ชง แต่ก็หลั่งไหลเข้ามาไหว้พระ ไหว้เจ้า ขอพรเป็นจำนวนมากเช่นกัน ภายใน ประดิษฐานพระศากยมุนีพุทธเจ้า พระอมิตาภะพุทธเจ้า พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้า วิหารด้านหน้าประดิษฐาน ท้าวจตุโลกบาลข้างละ 2 องค์ นอกจากนี้ยังมีเทพไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ตรุษจีนปีนี้ใครมาเที่ยวเยาวราช อย่าลืมเข้ามาสักการะ เทพไฉ่ซิงเอี้ย เพื่อเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ปีใหม่ด้วยโชคลาภ เงินทอง และความเป็นมงคล
2. ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ย
ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ย เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่มากๆ ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.2201 ว่ากันว่าเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย โดยปักหมุดอยู่ที่ซอยเยาวราช 6 หรือตรอกอิสรภาพ ถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปไหว้ขอพรต้อนรับปีใหม่จีนได้ตั้งแต่ 07.00 - 17.00 น.
ตัวอาคารถูกสร้างตามแบบฉบับของสถาปัตยกรรมจีนทั้งหมด ประตูใหญ่ทางเข้าสร้างเป็นประตูซุ้มอนุสรณ์ ตัวศาลเจ้าขนาดย่อมสร้างเป็นทรงภูเขาตามหลักฮวงจุ้ยของจีนโบราณ หลังคาปูด้วยกระเบื้องเคลือบสีแบบจีน หน้าประตูทางเข้ามีโคมไฟสไตล์จีนโบราณดวงใหญ่ 2 ดวง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นดวงตาเสือที่คอยเฝ้าคุ้มครองและปกป้องศาลเจ้าและชุมชนตลาดเล่งบ๊วยเอี๊ย
ภาพจิตรกรรมสไตล์จีนแต้จิ๋ว
เล่งบ๊วยเอี๊ย ศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
ภายในศาลมี เล่งบ๊วยเอี๊ยะกง เล่งบ๊วยเอี๊ยะม่า เป็นองค์ประธาน ด้านซ้ายมือเป็นที่ตั้งของ เทพเจ้ากวนอู เทพแห่งความซื่อสัตย์ และ ไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ด้านขวาเป็นแท่นบูชากิวเทียนเนี่ยเนี้ย องค์ราชินีแห่งสวรรค์ ทางฝั่งขวายังเป็นที่ตั้งของระฆังโบราณอันเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ที่ได้มาจากประเทศจีนในสมัยรัชสมัยฮ่องเต้เต้ากวงแห่งราชวงศ์ชิงอีกด้วย ใครอยากไหว้สักการะเทพแห่งโชคลาภ ที่นี่ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นเลย
3. ศาลเจ้ากวนอู
ศาลเจ้ากวนอูและเทพเจ้าม้า เป็นศาลเจ้าอีกแห่งที่เก่าแก่เช่นกัน โดยถูกสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2435 ตั้งอยู่ที่ตลาดเก่าเยาวราช โดยเดินต่อจากศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ย มาอีกสักพักก็จะถึงศาลกวนอูแห่งนี้ ความสำคัญของที่นี่นอกจากเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้ากวนอู เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตว์แล้ว ยังประดิษฐานเทพเจ้าม้า ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นม้าเส็กเทาของเทพกวนอู
ศาลกวนอู
เทพเจ้าม้าที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ
ที่นี่สร้างโดย พล.ต.ต.พระยาคทาธรบดีสีหราชบาลเมือง ซึ่งถือกำเนิดในตระกูลเบ๊หรือหม่า ที่แปลว่า ม้า นั่นเอง สำหรับช่วงตรุษจีนจะมีผู้คนเข้ามาสักการะเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่หากมาไหว้ เทพเจ้ากวนอู มักจะขอพรเกี่ยวกับหน้าที่การงาน เชื่อว่าจะได้เป็นเจ้าคน นายคน และมีลูกน้องบริวารที่ดี ส่วนคนที่มาสักการะ เทพเจ้าม้า มักขอพรในสิ่งที่ปรารถนา ถ้าคนที่มีลูกเล็กๆ ก็มักจะมาขอพรให้ลูกของตัวเองว่านอนสอนง่าย และอยู่ในโอวาส เชื่อกันว่า เทพเจ้าม้า สามารถปราบพยศของเด็กๆ ได้ โดยจะต้องไหว้ด้วยผักบุ้งหรือผักกาด เปิดให้เข้าชมและมาสักการะเทพต่างๆ ในเวลา 07.00-17.00 น.
4. มูลนิธีเทียนฟ้า
มูลนิธีเทียนฟ้า ตั้งอยู่ที่ริมถนนเยาวราช ตรงข้ามซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิม ปางประทานพร ในช่วงวันตรุษจีนจะมีชาวจีนและนักท่องเที่ยวเข้ามาไหว้ขอพรเพื่อให้องค์เจ้าแม่ช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มูลนิธิแห่งนี้ถูกสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2446 ในรัชกาลที่ 5 แรกเริ่มเดิมที ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเพื่อเยียวยารักษาชาวจีน ที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามายังประเทศไทย โดยรวบรวมทุนทรัพย์จากพ่อค้าชาวจีนและประชาชนในย่านนี้ร่วมกันสร้างขึ้น ต่อมาจึงได้มีการอัญเชิญสมเด็จพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (เจ้าแม่กวนอิม) ซึ่งเป็นไม้จันทน์แกะสลักจากประเทศจีน มาประดิษฐานเป็นที่เคารพสักการะทางใจสำหรับผู้ป่วย ตั้งบริเวณด้านหน้าของโรงพยาบาล
ในช่วงตรุษจีน ที่นี่ถือเป็นสถานที่ยอดนิยมอันดับต้นๆ ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะมาสักการะขอพร นอกจากนี้ในแต่ละปีก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาชมความงดงามขององค์เจ้าแม่กวนอิม รวมถึงมาสักการะขอพรต้อนรับปีใหม่จีนด้วย ที่นี่เปิดให้เข้าชมตลอด 24 ชม.
องค์เจ้าแม่กวนอิมอ่อนช้อยงดงาม
มูลนิธีเทียนฟ้า มีโรงพยาบาลอยู่ด้านหลังเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยชาวจีนที่อพยพเข้ามาในสมัยก่อน
5. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
วัดไทยหนึ่งเดียวในย่านเยาวราชก็คือ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร หรือ วัดสามจีน ตั้งอยู่ตรงข้ามกับมูลนิธิเทียนฟ้า ว่ากันว่าที่ชื่อดั้งเดิมเรียกว่า วัดสามจีน ก็เพราะว่ามีคนจีน 3 คน ช่วยกันสร้างวัดนี้ขึ้นมา แต่ก่อสร้างมาตั้งแต่เมื่อไหร่ สมัยใด กลับไม่พบหลักฐานที่แน่ชัด แต่ที่นี่มีความพิเศษคือ เป็นที่ประดิษฐานของ พระสุโขทัยไตรมิตร เป็นพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ ปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ หลวงพ่อทองคำ องค์พระพุทธรูปนี้สันนิษฐานกันว่า และยังได้รับการจดบันทึกลงในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
มุมสวยๆ ของวัดไตรมิตร
ยิ่งใหญ่โอ่อ่าไม่แพ้วัดจีน
นอกจากนี้ ยังมีพุทธสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าอย่าง พระมหามณฑป ที่สวยงามจนสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมอยู่ไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในวันตรุษจีนนี้ ผู้คนไม่ได้เดินทางไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดจีนเท่านั้น แต่ยังเดินทางมาสักการะ หลวงพ่อทองคำแห่งวัดไตรมิตร เพื่อความโชคดีและความมั่งมีศรีสุขต้อนรับปีใหม่จีนกันทุกๆ ปี ที่นี่เขาเปิดให้เข้าชมได้ในวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น.
