เมื่อวันที่ 3 เมษายน ปี 57 มีฆาตกรรมโหดที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วสังคมไทย สำหรับคดีลูกชายคนเล็กตระกูล "หอมชง" อย่าง นายกิตตินันท์ หอมชง หรือ เต้ย อายุ 22 ปี ที่สั่งฆ่าพ่อแม่ และพี่ชายยศ ร.ต.ท. ดับยกครัวคาบ้านพักย่านบางแค จากเหตุน้อยเนื้อต่ำใจและหวังฮุบสมบัติ แต่คดีดังกล่าว คลี่คลายลงได้ ภายหลังจากที่ นายสิริชัย เพิ่มพูนศักดิ์ หรือ ป้อม มือปืนที่ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวแต่โดยดีที่ สน.สุทธิสาร พร้อมกับยอมรับสารภาพทุกข้อหา และเปิดใจว่าไม่ทราบมาก่อนว่าลูกชายว่าจ้างให้ฆ่าครอบครัวตัวเอง...
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ปฐมบทฆ่ายกครัว "หอมชง"
เส้นทางของเหตุโศกนาฏกรรมตระกูล"หอมชง"เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หลักสอง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันจนมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บริเวณบ้านเลขที่ 1279 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยคนร้ายเข้าบุกยิงคนในครอบครัว "หอมชง" พบศพนางวนิดา หอมชง ครูโรงเรียนราชวินิตประถมบางแค วัย 57 ปี ขณะที่ใกล้ ๆ กันนั้นพบศพ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ หอมชง หรือ หมวดเติ้ล วัย 27 ปี พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน และนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 66 นอกจากนี้ ใกล้ๆ ศพ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ พบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. 1 ปลอกด้วย และพบศพ พ.อ.วินัย หอมชง ข้าราชการ บำนาญ กรมแพทย์ทหารบก วัย 63 ปี เกิดขึ้นโดยที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุ และมีการสอบสวนบุคคลใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต
โศกนาฏกรรมตระกูล"หอมชง"
ต่อมาวันที่ 4 เมษายน นายกิตตินันท์ หอมชง หรือ เต้ย อายุ 22 ปี ลูกชายคนเล็กของครอบครัว เดินทางมาที่บ้านให้การว่า ไม่ทราบว่าเรื่องเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะตนพักกับเพื่อนที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 โดยให้ข้อมูลว่า น่าจะเป็นความขัดแย้งเรื่องที่ดินหรือไม่ และเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ หลังพบพิรุธบางอย่าง
นายกิตตินันท์ หอมชง หรือ เต้ย ผู้สั่งฆ่าพ่อแม่และพี่ชาย
แต่ทว่า วันที่ 5 เมษายน นายกิตตินันท์ หอมชง ลูกชายคนเล็กของตระกูลได้ยอมรับว่า เป็นผู้ว่าจ้างมือปืนมาสังหารคนในครอบครัว เหตุหวังมรดก รู้สึกว่าพ่อ แม่ ลำเอียง น้อยใจรักลูกไม่เท่ากัน โดยมี นายศักรินทร์ พันธุกุล เพื่อนชายคนสนิทคอยช่วยวางแผนจ้างวานคนร้าย ให้บุกเข้าไปยังบ้านหลังดังกล่าว
ฆ่ายกครัว'หอมชง' 3 ศพ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.ได้ควบคุมตัว นายกิตตินันท์ และนายศักรินทร์ หรือกอล์ฟ เพื่อนชายคนสนิทเอาไว้แล้ว และอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือ ซึ่งยังไม่ทราบชื่ออีก 2 ราย เชื่อว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ ก่อนหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนขนาด 9 มม. และได้รับค่าเดินทางจากนายกิตตินันท์ ไปเพียง 10,000 บาท สำหรับใช้ในการหลบหนี โดยมีการตกลงกันว่าถ้างานสำเร็จและเรื่องเงียบลงจะนัดรวมตัวเพื่อให้ค่าตอบแทนอีกก้อนหนึ่ง
นายศักรินทร์ เพื่อนชายคนสนิทนายเต๊ย ถูกควบคุมตัวมาแถลงข่าว
เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาฆ่ายกครัว'หอมชง'มาแถลงข่าว
กระทั่งวันที่ 6 เมษายน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายฉลาด เที่ยงธรรม หรือ ป๊อด และ นายสุรพงษ์ ชูพันธ์ หรือ จ่าแอ๊ด 2 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันเป็นธุระจัดการสังหารคนในตระกูลหอมชง แต่ยังเหลือนายสิริชัย หรือป้อม เพิ่มพูนศักดิ์ มือปืนผู้ลงมือยิงอีก 1 คน ที่ยังหลบหนีอยู่ ทำให้ตำรวจต้องตั้งค่าหัวรางวัลนำจับ 5 แสนบาท จนกระทั่งวันที่ 7 เมษายน นายสิริชัย ทนแรงกดดันไม่ไหวได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ญาติไม่ปักใจเชื่อ ลูกชายคนเล็กสั่งฆ่าครอบครัว !?!
นายปวิช บุญกระพือ น้าชายของนายกิตตินันท์ ยังไม่ปักเชื่อในคำให้การของหลานชายที่ตกเป็นผู้ต้องหา เพราะหลานเป็นที่รักครอบครัว ส่วนผลประโยชน์เรื่องมรดกที่ดินนั้นทางพ่อ-แม่ ได้แบ่งให้หลานๆ ทั้ง 2 คน โดยเท่าๆ กัน และเรื่องการจ้างวานมือปืนมาฆ่า พ่อ-แม่-พี่ชาย นั้น เท่าที่พูดคุยกับ นายกิตตินันท์ ไม่เคยบอกว่าเป็นคนบงการ เพราะ นายกิตตินันท์ นั้นไม่มีเงิน แต่มือปืนออกมาบอกว่าจะให้ทั้งเงินสดและรถยนต์นั้นหลังจากงานเสร็จแล้ว
ขณะที่ปมประเด็นการสังหารครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงยืนยันข้อสันนิษฐานเดิม เนื่องจาก นายกิตตินันท์ รู้สึกน้อยใจและโกรธเคืองที่ครอบครัวมักนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับพี่ชาย ประกอบกับต้องการทรัพย์มรดกของครอบครัว หลังพบว่าบิดามีสินทรัพย์เป็นที่ดินกว่า 4 ไร่ มูลค่าหลาย 100 ล้านบาท และมีเงินฝากจำนานหลาย 10 ล้านบาทเช่นกัน
คุมตัวผู้ต้องหาฆ่ายกครัว'หอมชง'มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
ส่วนข้อสงสัยที่ญาติของครอบครัวหอมชงยังแคลงใจ ไม่ปักใจเชื่อว่า นายกิตตินันท์ จะว่าจ้างมือปืนมาสังหารพ่อแม่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า ดำเนินการสืบสวนไปตามพยานหลักฐานที่มี ไม่ได้ใช้ความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ให้การไขคดีดังกล่าว โดยยืนยันว่าเป็นการปิดคดีอย่างสมบูรณ์ ซึ่งสามารถติดตามอาวุธปืนของกลางกลับมาได้ และมือปืนก็ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้ปืนก่อเหตุยิงทั้ง 3 ส่วนแรงจูงใจเชื่อว่า นายกิตตินันท์ บุตรชายคนเล็กของครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง เพราะคาดหวังว่า หากพ่อแม่ และพี่ชาย เสียชีวิต จะได้รับมรดกในอนาคต โดยนำที่ดินไปขายหลังคดีเงียบ
ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ได้ส่งสำนวนยื่นฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน มายังสำนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรี ซึ่งทั้ง 5 คน ไม่ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมในชั้นพนักงานอัยการ จากนั้นอัยการได้พิจารณาสำนวนก่อนที่จะส่งสำนวนยื่นฟ้องทั้ง 5 คน เป็นจำเลยต่อศาลอาญาธนบุรี ซึ่งแต่ละคนจะแจ้งข้อกล่าวหาต่างกัน อย่างกรณีของ นายกิตตินันท์ หรือ นายศักรินทร์ จำเลยที่ 1 กับ 2 นั้น มีข้อหา ร่วมกันจ้างวานฆ่า โดยศาลได้นัดสืบพยานโจทก์-จำเลย
ทว่า…ทุกคนให้การรับสารภาพในชั้นศาล ยกเว้น นายกิตตินันท์ ยังให้การปฏิเสธ
ล่าสุด วันที่ 20 มีนาคม 2558 ศาลอาญาธนบุรี ได้ทุบค้อน! อ่านคำพิพากษาให้ประหารชีวิต นายกิตตินันท์ หรือ เต้ย ลูกชายคนเล็กที่เป็นคนสั่งฆ่ายกครัว ส่วน นายศักรินทร์ เพื่อนชายคนสนิท กับ นายฉลาด หรืออาจารย์ป๊อด เที่ยงธรรม อายุ 53 ปี คนขับรถแท็กซี่คอยรับส่งมือปืน และนายสุระพงษ์ หรือจ่าแอ๊ด ชูพันธ์ อายุ 47 ปี มือปืนที่คอยระวังหลังให้กับมือปืนอีกราย และ นายสิริชัย หรือป้อม เพิ่มพูนศักดิ์ มือปืนผู้ลงมือ ให้จำคุกตลอดชีวิต
คนทำผิดย่อมได้รับโทษทัณฑ์ที่ทำไว้
Microsoft เผยผลสำรวจ 10 อาชีพในอนาคตที่ผู้บริหารกลัวขาดคนในยุค AI
Bitkub HODL Day: สร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างสร้างสรรค์ ผ่านกีฬาสีที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับ “บิทคับ กรุ๊ป”
Orchidjobs บริการสรรหาพนักงานครบวงจร
สภาพัฒน์ฯ เผยผลสำรวจผู้บริหาร 74% ไม่จ้างพนักงานไร้ทักษะ AI ปัจจุบันคนไทยว่างงาน-หนี้เกินตัว ใช้โซเชียลกู้ยืมนอกระบบ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
