รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยสถานการณ์น้ำยังไม่น่าไว้วางใจ เตรียมบรรจุวาระเร่งด่วนในการประชุมครม. ดูแลนํ้ากินนํ้าใช้พื้นที่ประสบภัยแล้ง ส่วนนาข้าวที่ยังไม่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว คงต้องยอมรับผลกระทบ โดยรัฐบาลจะกำหนดแนวทางเยียวยาช่วยเหลือ
ภัยแล้งยังทำให้คลองบ้านญี่ปุ่นเหนือ จ.พระนครศรีอยุธยา แห้งขอด บ้านเรือนทรุดตัวเสียหาย 5 หลังรวด ส่วนฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทำให้เกิดดินภูเขาถล่มทับถนนใน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.แม่สอด จ.ตาก และเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่วนที่ภาคใต้ฝนตกหนักน้ำระบายไม่ทันทำให้เกิดน้ำท่วมที่หลายจังหวัด กรมอุตุนิยมวิทยา คาดมรสุมพาดผ่านพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และตอนบนของภาคอีสาน ทำให้ฝนตกเพิ่มขึ้น ส่วนภาคใต้คลื่นลมแรง
วิกฤติภัยแล้งยังเป็นปัญหาสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลางอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกษตรกร และชาวนาที่ข้าวใกล้จะยืนต้นตายเนื่องจากขาดน้ำ ขณะที่รัฐบาลสั่งงดสูบน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากน้ำในเขื่อนหลักลดต่ำลงมากเป็นประวัติการณ์ เกรงจะไม่เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคหากฝนยังไม่ตกลงมาตามที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองที่ลดต่ำลงยังส่งผลให้ถนนทรุดตัวเสียหายหลายสาย
ความคืบหน้าสถานการณ์ภัยแล้งเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ 4 เขื่อนลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วยเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำเก็บกักรวม 7,189 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 29 เปอร์เซ็นต์ของความจุ มีน้ำใช้การได้รวม 493 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำไหลลงอ่างรวม 16.23 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานที่มีน้ำไหลเข้าแค่ 9.51 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำระบายอยู่ที่ 22.09 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนลำตะคอง มีปริมาณน้ำ 73 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 23 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำใช้การได้ 50 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 17 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำไหลลงอ่าง 0.06 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำระบายอยู่ที่ 0.43 ล้าน ลบ.ม.
นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 3,923 ล้าน ลบ.ม. หรือ 29.15 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำใช้การได้ 123 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 1.28 เปอร์เซ็นต์ของความจุ มีน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้นถึง 5.65 ล้าน ลบ.ม. และระบายเพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ 5 ล้าน ลบ.ม. นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีมีน้ำไหลเข้ามากเป็นวันแรกและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะมีฝนตกเหนือเขื่อนในหลายพื้นที่ และแม้ว่าจะตกนอกรัศมีการกักเก็บแต่ก็ส่งผลดีต่อพื้นที่การเกษตร
นายสุเทพ เลิศศรีมงคล ผอ.เขื่อนสิริกิติ์ เผยว่า เขื่อนสิริกิติ์มีน้ำใช้การได้ 270.36 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 4.06 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำไหลเข้า 6.89 ล้าน ลบ.ม. เมื่อวานระบายน้ำ 14.08 ล้าน ลบ.ม. ส่วนฝนตกลงมาพื้นที่ท้ายเขื่อนช่วยหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังขาดน้ำอย่างหนัก และในวันที่ 21 ก.ค. จะลดการระบายน้ำเหลือ 11 ล้าน ลบ.ม. ไปจนถึงวันที่ 15 ส.ค. ไม่สงผลกระทบในเรื่องน้ำการอุปโภค-บริโภค และในระบบนิเวศ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำฝน น้ำในเขื่อน และน้ำใช้ พบว่า สถานการณ์ยังไม่อยู่ในภาวะที่ไว้วางใจได้ รัฐบาลได้เตรียมมาตรการจัดการปัญหาโดยให้ความสำคัญกับน้ำบริโภคเป็นลำดับแรก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ทั้งนี้ ในการประชุม ครม.วันอังคารที่ 21 ก.ค.นี้ จะบรรจุวาระเร่งด่วนเรื่องการดูแลน้ำกินน้ำใช้ในพื้นที่ประสบภัยแล้ง ในรูปแบบเปิดรับบริจาคน้ำดื่มจากประชาชนส่วนกลางส่งไปช่วยสมทบในจุดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดฯให้ตั้งจุดบริการน้ำทั่วประเทศในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และจุดที่ยังต้องการการช่วยเหลือเป็นพิเศษ มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลัก ลำดับต่อไปคือการให้ความสำคัญกับพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่นาที่ข้าวใกล้จะให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ รวมถึงพืชสวนที่ใช้เวลาเพาะปลูกฟื้นฟูหลายปี ส่วนพื้นที่นาที่ยังไม่ได้อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว หากสถานการณ์น้ำยังไม่ดีขึ้นคงต้องยอมรับผลกระทบ ซึ่งรัฐบาลจะได้กำหนดแนวทางการเยียวยาช่วยเหลือต่อไป อยากขอให้เข้าใจถึงความจำเป็นของประเทศในขณะนี้
ที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จ.พระนครศรีอยุธยา นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้น 22 จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์การบูรณาการช่วยเหลือเกษตรกรสู้วิกฤติภัยแล้ง ใช้เวลานาน 2 ชั่วโมง โดยนายปีติพงศ์มอบนโยบาย 4 ข้อ 1.หาเป้าหมายพื้นที่ที่มีปัญหา อาทิ พื้นที่ข้าวตั้งท้อง พื้นที่เฉพาะจุดเช่นสวนกล้วยไม้ สวนผลไม้ พื้นที่ที่จังหวัดยังพอสนับสนุนได้และพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง นาปีไม่ถึงเดือนจะฟื้นฟูช่วยเหลืออย่างไร 2.ให้ประสาน หน่วยความมั่นคงออกเยี่ยมเยียน ปรับทุกข์ เป็นเพื่อนเกษตรกร 3.เทคโนโลยี ระดมพลังแก้ไขในช่วง 2-3 สัปดาห์ด้านน้ำ ดิน สัตว์ ชลประทาน ประมง และบริหารสหกรณ์ ให้ไปงดเว้น เลื่อนการชำระหนี้เกษตรกร และ 4.ยุทธการ ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปประจำหน่วยงานแก้ไขปัญหาช่วยเหลือด้านการเงิน และระบบการรายงาน
ที่หมู่ 2 ต.ตลาดใหม่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ชาวบ้านกว่า 100 คน นำโดยนายชโลม ยอดทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ร่วมทำบุญขอฝนตามพิธีกรรมโบราณ โดยนิมนต์พระทำบุญตักบาตรและสวดมนต์ พร้อมปั้นหุ่นดินนายเมฆ กับนางฝนในท่าร่วมเพศ รวมทั้งปลัดขิกตั้งไว้บริเวณทางสามแพร่งในหมู่บ้าน โดยนายชโลมกล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทำให้น้ำแห้งคลอง ไร้น้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว และ ครม.ห้ามสูบน้ำทำการเกษตร ทำให้ชาวบ้านหมดหวังต้องหันมาพึ่งเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อแต่โบราณ
ขณะเดียวกัน นายสมพงษ์ รุ่งดำรงค์ นายก อบต.เทพมงคล อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเหตุบ้านเรือนริมคลองบ้านญี่ปุ่นเหนือ ถนนสายบึงกระสัน-บ้านหลักชัย หมู่ 2 ต.เทพมงคล ปลูกใกล้เคียงกันทรุดตัวเสียหาย 5 หลัง ได้แก่บ้านเลขที่ 57 ของนายพรพล ทรัพย์สกุล อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 58 ของนายสุชิน คล้ายมาลา อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 55/1 ของนางประจวบ อุ่นใจ อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 61/1 ของนายธงชัย ทรัพย์อนันต์ อายุ 50 ปี และบ้านเลขที่ 55 บ้านเอียงลงไปทางคลองทรุดต่ำกว่าถนนราว 2.5-3.0 เมตร นอกจากนี้ ถนนสายบึงกระสัน-บ้านหลักชัย ยังทรุดเสียหายยาว 20-30 เมตร รวม 3 ช่วง เจ้าหน้าที่ได้นำหินคลุกมาถมปรับพื้นถนนใช้ชั่วคราว ส่วนบ้านที่เสียหายเจ้าของบ้านยังไม่ยอมย้ายออก เนื่องจากยังไม่มีที่อยู่และเกรงทรัพย์สินสูญหาย
นายสมพงษ์กล่าวว่า คลองบ้านญี่ปุ่นเหนือมีความยาว 15 กม. รับน้ำจากคลองพระยาบันลือ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านทั้ง 5 หลัง เริ่มทรุดตัวตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำในคลองลดต่ำลง แต่หลังจากชาวนางดสูบน้ำจากคลองพระยาบันลือส่งเข้าคลองบ้านญี่ปุ่นเหนือตามคำสั่งรัฐบาล ทำให้น้ำในคลองแห้งขอด ทำให้บ้านทรุดหนักเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบ้านของนายพรพลทรุดลงไปทั้งหลัง คาดว่าค่าเสียหายของบ้านทั้ง 5 หลัง ประมาณ 5 ล้านบาท สำหรับคลองแห่งนี้เป็นคลองส่งน้ำหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรรวมถึงพื้นที่บางส่วนของ จ.สุพรรณบุรี ทำให้ชาวนาไม่มีน้ำทำนาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
สภาพของแม่น้ำที่น้ำแห้งจนไม่เหลือเค้าเดิม
ส่วนถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันออก กม.ที่ 0+300 ปท.หมายเลข 3055 หมู่ 5 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เกิดทรุดตัวลึก 3 เมตร เป็นระยะทางกว่า 50 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท เร่งซ่อมแซมเพื่อให้ประชาชนใช้ชั่วคราวนั้น ปรากฏว่าถนนได้ทรุดตัวเพิ่มขึ้นทำให้รถเกรด และรถบดถนนที่จอดอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกตะแคงเสียหาย นายภาคภูมิ ผ่านสำแดง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทปทุมธานี กล่าวว่า รถทั้งสองคันเป็นของบริษัทที่กรมทางหลวงชนบท ว่าจ้างมาให้ปรับผิวจราจรในช่วงนี้ สาเหตุเนื่องจากถนนที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการปรับพื้นผิวจราจรแล้วเกิดทรุดตัวลงอีก ทำให้รถที่จอดอยู่ด้านริมถนนพลิกตกลงไปด้วย ขอเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงนี้ควรระมัดระวังเพราะไม่รู้ว่าถนนจะทรุดเวลาไหน หากเจ้าหน้าที่นำป้าย หรือสิ่งกีดขวางไปปิดถนน แสดงว่าถนนช่วงบริเวณดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้เนื่องจากถนนทรุด ก็ขอให้ประชาชนได้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
ขณะที่ปัญหาภัยแล้งยังไม่คลี่คลาย เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดดินภูเขาสไลด์ตัวทับถนน และเกิดน้ำท่วมหลายแห่ง ที่ จ.แม่ฮ่องสอน หลังฝนตกติดต่อกัน 3 วัน ทำให้ดินภูเขาถล่มปิดถนนสายบ้านแม่สวด-บ้านห้วยม่วง ทางเข้าบ้านหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงบ้านห้วยม่วง ต.แม่สวด อ.สบเมย นายจรูญ จินะกัณฑ์ ปลัดอำเภอสบเมย นำเจ้าหน้าที่ อส. เข้าเคลื่อนย้ายต้นไม้และกองดินนานกว่า 2 ชั่วโมง จนสามารถเปิดใช้เส้นทางได้ แต่การเดินทางต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง และมีน้ำป่ากัดเซาะถนนเสียหายหลายจุด
ส่วนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ฝนตกหนักทั้งคืน ทำให้ดินภูเขาสไลด์ลงมาปิดถนนสายแม่สอด-ตาก บริเวณใกล้เนินพิศวง หลัก กม.15-16 ช่วงขาเข้ามา อ.แม่สอด ร.ท.ศาศวัตร สัตยพงษ์ หัวหน้าด่านตรวจความมั่นคงบ้านห้วยหินฝน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด (ฉก.ร.4) ได้นำกำลังไปช่วย ดูแลความปลอดภัยให้ผู้ใช้เส้นทาง พร้อมนำป้ายเตือนไปติดตั้ง นอกจากนี้ ยังมีน้ำท่วมถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครแม่สอด โดยเฉพาะถนนสายเทศบาลนครแม่สอดกับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก บริเวณหน้าโรงเรียนราษฎร์วิทยา เป็นที่ลุ่มลักษณะก้นกระทะ มีน้ำท่วมสูงราว 30 ซม.
จ.อุดรธานี ฝนตกหนักในพื้นที่ทำให้น้ำไหลบ่าท่วมถนนสายอุดรธานี-สกลนคร กม.12-13 บ้านหนองกุง หมู่ 8 ต.ผักตบ อ.หนองหาน ฝั่งขาเข้าตัวเมืองอุดรธานี 1 ช่องทาง ระดับน้ำสูง 30 ซม.ทำให้ เหลือถนนใช้ได้เพียงเลนเดียว ขณะเดียวกัน น.ส.เนตรมณี พรมเสาร์ ขับรถเก๋งนิสสันสีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 995 อุดรธานี มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี ทำให้รถเสียหลักตกคลองข้างถนน น.ส.เนตรมณีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ที่ จ.นครพนม ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ระบายน้ำไม่ทัน เกิดน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ถนนอภิบาลบัญชา หน้าตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม และถนนราชทัณฑ์ ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทำให้รถติดขัด ทางเทศบาลเมืองนครพนมระดมติดตั้งเครื่องสูบน้ำร่วม 10 จุด เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงจนน้ำลดลง แต่ยังมีน้ำท่วมขังบางจุด พร้อมจัดเตรียมกระสอบทรายไว้ช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนเขตเทศบาล ป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้าน
ที่ อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล เกิดฝนตกหนักช่วงเช้ามืด จนน้ำระบายไม่ทันไหลท่วมขังบ้านเรือนชาวบ้านหมู่ 1 ต.นาทอน โดยเฉพาะที่บ้านของนายวินัย หลงโส๊ะ อายุ 64 ปี เลขที่ 13 หมู่ 1 ต.นาทอน น้ำท่วมบ้านสูงกว่าครึ่งเมตร ส่วนหมู่ 2 ต.นาทอน มีบ้านถูกน้ำท่วมเสียหาย 5 หลัง ส่วนพื้นที่ ต.ทุ่งบุหลัง น้ำในลำคลองขุนชนะล้นเอ่อท่วมพื้นที่ หมู่ 2, 4 และหมู่ 5 ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 20 หลังคาเรือน ซึ่งนายบุญช่วย หอมยามเย็น นายอำเภอทุ่งหว้า เปิดเผยว่า ช่วงที่ฝนตกมีน้ำทะเลหนุนทำให้ไม่สามารถระบายน้ำคลองขุนชนะออกสู่ทะเลได้ ทำให้เกิดน้ำท่วม คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาอีกน้ำจะลดเข้าสู่ภาวะปกติในวันรุ่งขึ้น
ที่ จ.ตรัง ถนนเพชรเกษม สายห้วยยอด-วังวิเศษ-กระบี่ หลัก กม.23 หมู่ 8 ต.บางกุ้ง อ.ห้วย– ยอด ห่างแยกไฟแดงนาวง ประมาณ 2 กม. ก่อนถึงโรงเรียนบ้านเหนือคลอง ถนนยุบเป็นหลุมลึก ซึ่งเป็นจุดเดิมที่เกิดหลุมยุบไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่คราวนี้เป็นหลุมลึกและขนาดใหญ่ ซึ่งนายอนันต์ การปักษี ผอ.แขวงทางหลวงกระบี่ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขเร่งด่วน นำแผงเหล็กมากั้น หวั่นถนนทรุดตัวลงขยายวงกว้างออกไปอีก เนื่องจากพื้นดินชุ่มน้ำและฝนตกอยู่
ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 14.00 น. หลังเกิดฝนตกหนักราว 1 ชั่วโมง ทำให้น้ำระบายไม่ทัน ส่งผลให้ถนนสายเลียบชายหาดเฉวง บริเวณหน้าหอนาฬิกา หมู่ 2 ต.บ่อผุด มีน้ำท่วมสูง 20-30 ซม. ระยะทางราว 50 เมตร ทำให้รถราติดขัดอย่างหนัก คาดว่าสาเหตุจากพื้นที่เป็นที่ลุ่มมีทางน้ำไหลผ่าน และมีขยะอุดตันท่อระบายน้ำ หลังฝนหยุดตกน้ำได้ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติในเวลา 1 ชั่วโมง
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมายังคงมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง นอกจากนี้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง 1-2 วัน ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและวันที่ 22-24 ก.ค. บริเวณประเทศไทยจะมีฝนลดลง
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
