สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยในวันจันทร์ (18 ส.ค.) ว่าพวกเขาได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจร่วมมือกับองค์กรการบินและการท่องเที่ยวทั่วโลก เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสมรณะ 'อีโบลา' หลังจากความหวั่นวิตกว่าไวรัสตัวนี้อาจติดไปกับผู้โดยสารเครื่องบินสู่ประเทศต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น WHO เผยในแถลงการณ์ว่า พวกเขาร่วมมือกับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO), องค์กรการท่องเที่ยวของสหประชาชาติ (UNWTO), คณะกรรมการท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (ACI), สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และ สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC)
โดยคณะทำงานเฉพาะกิจมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนความพยายามของประเทศต่างๆทั่วโลก ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา และให้ความร่วมมือการตอบสนองในระดับนานาชาติในภาคการท่องเที่ยวและการเดินทาง คณะฯยังจะเฝ้าสังเกตการณ์สถานการณ์การระบาด และจให้ข้อมูลแก่ภาคการเดินทางและการท้องเที่ยว รวมทั้งแก่เหล่านักเดินทางด้วย
WHO เผยต่อสำนักข่าวเอเอฟพี ด้วยว่า การประชุมในห้องลับนัดแรกของคณะทำงานเฉพาะกิจนี้ เกิดขึ้นไปแล้วในวันที่ 13 ส.ค. หลังจากพวกเขาประกาศให้การระบาดของไวรัสอีโบลา เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก เมื่อ 8 ส.ค. ทั้งนี้ ไวรัสอีโบลากำลังระบาดในหลายประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ กินี, ไลบีเรีย, เซียร์ราลีโอน และไนจีเรีย โดยข้อมูลล่าสุดของ WHO ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออีโบลาที่พบในแอฟริกาตะวันตกเพิ่มขึ้นเป็น 2,127 รายแล้ว ในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้วถึง 1,145 คน ขณะเดียวกัน ความวิตกว่าไวรัสตัวนี้จะเดินทางไปพื้นที่อื่นๆพร้อมกับผู้โดยสารเครื่องบิน เหมือนกรณีไนจีเรียที่ผู้ป่วยชาวไลบีเรียเดินทางมาและทำให้เกิดการแพร่กระจากของอีโบลาในเมืองลากอส กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ในวันจันทร์ของ WHO ระบุว่า พวกเขาไม่ได้แนะน้ำให้มีการห้ามการเดินทางหรือการค้าระหว่างประเทศเพราะการระบาดของอีโบลา
WHO ยังยืนยันด้วยว่า ความเสี่ยงการติดต่อของไวรัสระหว่างการเดินทางทางอากาศนั้นต่ำ ไม่เหมือนกรณีโรคไข้หวัดใหญ่หรือวัณโรค เพราะอีโบลาไม่ได้แพร่กระจายด้วยการหายใจเอาอนุภาคในอากาศที่ออกมาจากร่างกายผู้ติดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
ขอขอบคุณข่าว และภาพข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
