ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เจรจา สปส. จัดเงินทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มาทดลองนำร่องกับสินเชื่อสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน เน้นนำร่องในกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ที่มีงานทำ ด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน 1 - 2 %
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยภายหลังการสัมมนา เรื่องระบบการออมเพื่อที่อยู่อาศัยของเยอรมนี : แนวทางการส่งเสริมการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในประเทศไทย จัดร่วมกับ สมาคมสถาบันการออมเพื่อสินเชื่อที่อยู่อาศัยแห่งประเทศเยอรมนี (The German Association of Private Bausparkassen)หรือ บาวน์สปากัสเซ่น โดยจะนำหลักการออมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเอามาประยุกต์กับเรื่องโรงเรียนการออมของ ธอส. มีกลุ่มเป้าหมายคือมุ่งไปที่นักเรียน นักศึกษาที่จบใหม่ และเริ่มมีงานทำให้เริ่มเข้าสู่ระบบการออมอย่างสม่ำเสมอก่อนเป็นเวลา 5 ปี หลังจากนั้นธนาคาร หรือ อาจจะเป็นหน่วยงานสนใจใส่เงินประเดิมมาปล่อยกู้ให้ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน
ธอส. เตรียมเจรจากับสำนักงานประกันสังคม เพื่อนำเงินจากกองทุนประกันสังคมรวมกับ ธอส.ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มาทดลองนำร่องกับสินเชื่อสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน เน้นนำร่องในกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ที่มีงานทำ และต้องการมีบ้าน เพื่อคัดเลือก จากนั้น ธอส.จะเป็นผู้พิจารณาคุณสมบัติสมาชิก โดยต้องเป็นคนมีอาชีพ รายได้ใกล้เคียงกัน เพื่อสะสมเงินเข้าในกลุ่มประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อเดือน หากใครสะสมเงินเข้ากลุ่มจำนวนมากมีสิทธิกู้เงินก่อน ได้ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน 1 - 2 % อย่างไรก็ดีในส่วนของเงินประเดิมปล่อยกู้ หากต้องการให้เกิดความรวดเร็วทางธนาคารสามารถตั้งวงเงินปล่อยกู้ได้ราว 5,000 ล้านบาท และสามารถขอเงินสมทบจากหน่วยงานอื่นที่สนใจได้เช่นกัน
“โมเดลที่คิดไว้คืออาจให้เด็กที่จบใหม่และตั้งเป้ามีบ้านใน 5 ปีเริ่มออมเงินทุกเดือนเช่น เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี จะได้เงิน 3 แสนบาท เมื่อบวกเงินดาวน์อีก 1 แสนบาท เท่ากับเด็กคนนี้จะมีทุนในการซื้อบ้าน 4 แสนบาท สมมุติว่าบ้านราคา 1 ล้านบาท แบงก์จะปล่อยกู้ให้ 6 แสนในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เมื่อเอามาหักกับดอกเบี้ยฝากที่ได้มากก่อนหน้านี้ จะทำให้ดอกเบี้ยในช่วงปีแรกถูกมากๆ”นายฉัตรชัยกล่าว
ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินนโยบายบ้านประชารัฐผ่าน ธอส.และออมสิน จึงต้องการส่งเสริมให้ประชาชนสะสมเงินออมก่อนการซื้อบ้าน ยอมรับว่าแนวคิดของเบาสปากัส ส่งเสริมให้สมาชิกได้สะสมเงินออมก้อนหนึ่ง จากนั้นได้จึงกู้เงินจากสถาบันการเงินรวมถึงเงินจากการสะสมของสมาชิกในกลุ่ม นับว่าประสบความสำเร็จมากในเยอรมัน ทำให้มีสัดส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยในเยอรมันสูงถึง 20% และยังขยายไปยังกลุ่มประเทศอื่นทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป และจีน ดังนั้นกระทรวงการคลังเห็นว่าควรนำมาปรับใช้กับนโยบายบ้านประชารัฐของไทย เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินก่อนกู้ซื้อบ้าน
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
