ขึ้นแท่นเป็นรายการที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ พร้อมสร้างปรากกฏการณ์ทั้งช่องทางทีวี ออนไลน์ สะเทือนไปถึงโมเดลธุรกิจและแวดวงโฆษณา กับเรตติ้งที่พุ่งกระฉูดขึ้นเทียบชั้นละครหลังข่าว จนทำให้ The Mask Singerถูกยกให้เป็นกรณีศึกษาครั้งหนึ่งของวงการ "ชลากรณ์ ปัญญาโฉม" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี จากเวิร์คพอยท์ เผยที่มาความสำเร็จครั้งนี้ ผ่านรายการ"ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ" บนแฟนเพจ หนุ่มเมืองจันท์ เริ่มตั้งแต่การซื้อลิขสิทธิ์รายการจากเกาหลี ไปจนถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทั้งจากความครีเอทีฟ และกล้าที่จะทดลองลงไปสู่ "คนดู" ในช่องทางใหม่ๆ
ลิขสิทธิ์เกาหลี แต่ปรุงให้ถูกจริต เล่นใหญ่จัดเต็มในแบบคนไทย
ประเด็นการซื้อลิขสิทธิ์รายการจากเกาหลี ชลากรณ์เล่าว่า เริ่มแรกมีการถกเถียงกันว่า เราผลิตคอนเทนท์เองได้ ทำไมถึงต้องซื้อ จนสุดท้ายเราตัดสินใจซื้อ เนื่องจากความสนุกของมัน เริ่มจาก Let me in ที่ลองซื้อเวอร์ชั่นเกาหลีมาฉาย จนกระแสแรงพอไปได้ ทางเวิร์คพอยท์จึงตัดสินในซื้อลิขสิทธิ์มาทำเป็นเวอร์ชั่นไทย จนกระทั่งไปดูงานที่ต่างประเทศ จากที่ไปดูว่ามีรายการอะไรน่าสนใจบ้าง กลายเป็นได้ไปพูดคุยกับโปรดิวเซอร์รายการอื่นๆ ว่าเทรนด์ปีนี้เป็นอย่างไร คนดูชอบอะไร ได้แลกเปลี่ยน จนได้คุยกับคุยกับโปรดิวเซอร์คนหนึ่ง ที่แนะนำรายการ I Can See Your Voice ที่มีคีย์สำคัญว่า รายการนี้ทำให้ คนที่ไม่ต้องรองเพลงเก่ง ก็สามารถออกรายการทีวีแล้วดังได้ ซึ่งโดยปกติต้องร้องเก่งเท่านั้น
จากนั้นจับมาปรุงให้ถูกจริตคนไทยมากที่สุด เรานำมาทำเป็นความบันเทิงแบบคนไทย ส่วนเรื่องการ "ท้าทาย" ของกรรมการ นั่นเกิดขึ้นสดๆ ตอนท้ายโปรดิวเซอร์ชอบ เลยเอาไว้ ไม่ตัดทิ้ง ซึ่งพอทางเกาหลีได้ดูเค้าชอบ จนเอาแก๊กไปใช้บ้าง พวกท้าทาย แกล้ง การสับขาหลอก หรือแต่งตัวแบบเล่นใหญ่ จนโปรดิวเซอร์คนเดิมได้แนะนำ "The Mask Singer" ชลากรณ์เผยว่า
"ตอนดูเราก็ตกใจ ตัวอะไรร้องเพลง คนใส่หน้ากากคนกรี๊ด แต่มันดึงสายตา เรารู้สึกว่ามันสนุกแน่ๆ ที่ประเทศเกาหลีเป็นการนำเน็ตไอดอลที่ยังไม่แจ้งเกิดเป็นนักดนตรี"
สูตรสำเร็จที่ทำให้ The Mask Singer ฮิต โปรดักชั่น เพลง กรรมการ และ ความลับ!!!
นอกจากความสนุกสนาน ปัจจัยที่ทำให้รายการกระชากหน้ากากฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ท้าชนเรตติ้งละครหลังข่าวแบบเต็มตัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี workpoint เผยว่า หลักๆ คือเรื่องของโปรดักชั่นจัดเต็ม ตั้งแต่ชุด หน้ากาก ที่ใช้ดีไซเนอร์ทำ ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลาถึง 6 เดือน เพื่อให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด โดยเฉพาะหน้ากากที่ต้องออกแบบมาเอื้อให้ร้องออกมาเต็มที่ที่สุด อีกทั้งยังย้ำว่า ไม่การมีลิปซิงค์ รวมถึงเพลง กรรมการ ความตลก และความลับ เรามีการตั้งกติกา ทุกคนต้องเซ็นสัญญาเก็บความลับ โชคดีที่ศิลปินเอาด้วย ทั้งที่มันยุ่งยาก ถ่ายยาก
ออกอาการเฟซบุ๊คคู่ขนาน ทำให้รายการดังขึ้นหลายเท่า!
The Mask Singer ไม่เพียงเป็นแค่รายการ แต่มันคือปรากฎการณ์ในทุกแง่ทั้ง โซเชียล และเรตติ้ง ที่กระตุกให้หลายฝ่ายหันมามอง ทั้งตลาดทีวี โฆษณา และคนดู ชลากรณ์เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า "เฟศบุ๊คไลฟ์ มันเริ่มมีคนพูดบ่อยๆ ว่า ออนไลน์จะมา-ทีวีจะแย่ ถ้าออกเฟซบุ๊คคนจะดูทีวีน้อยลงมั้ย? เราจึงทดลองเลย
เพราะการโปรโมตที่ดีที่สุด คือการปล่อยให้ดูตอนนึงเต็มๆ
ให้คนดูจำไปเลยว่าเวลานี้ๆ คนจะได้ดูรายการนี้ที่เค้าชอบ ตอนแรกที่ทดลองพบว่ามันมีคนดูจริง และเรตติ้งทีวีก็ขึ้น บางคนดูควบสองอย่างไปเลยด้วยซ้ำ หรือเปิดเจอในเฟซบุ๊ค ก็รีบเปิดทีวีดูต่อ และยอดไลฟ์คนดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เทปถอดหน้ากากทุเรียนคนดู 8.4 แสน เป็นปรากฎการณ์ที่ทำให้เฟซบุ๊คล่ม"
"รายการไปอยู่ในใจคนส่วนมาก คนดูรักรายการนี้ ทุกคนหลงรักทุกหน้ากาก ทำให้คนที่ไม่ดูทีวีแล้ว กลับมาดูรายการนี้ รวมถึงการที่พ่อแม่ลูก กลับมารวมตัวดูรายการนี้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา รวมถึงคนที่ไม่ดูทีวี ก็กลับมาดูอีกครั้ง เพราะมันถูกพูดถึงเยอะ และมีแพลตฟอร์มออนไลน์มารองรับ เพราะรายการเล่นกับความลับ ต้องดูสดเท่านั้น หากกลับมาย้อนดูจะไม่สนุก เพราะอาจโดนสปอยล์ รู้ไปแล้วว่าภายใต้หน้ากากนั้นเป็นใคร แต่ถ้ารายการเราสนุกจริง ยังไงก็มีคนดูย้อนหลัง เพราะเทียบเป็นกีฬา ถ้าแมตช์นั้นไม่สนุก ผู้ผลแล้ว เราก็ไม่ดู แต่ถ้ามันสนุก ยิงกันถล่มทลาย เฉือน 3-2 มีดราม่าท้ายเกม เราก็ยังอยากกลับไปดู
ซีซั่นที่ 2 กติกาเดิม กรรมการชุดเดิม!!!
หลังปิดฉากซีซั่นแรกไปแบบครองใจผู้ชม The Mask Singer 2 ก็พร้อมสานต่อในสัปดาห์ต่อมาทันที ซึ่งชลากรณ์ เผยว่า มีการตัดสินใจกันเมื่อเดือนก่อน ว่าจะลุยกันต่อ ซึ่งจริงๆ เวิร์คพอยท์มีการทดลองการทำซีซั่น 2 ทันทีในรายการไมค์ทองคำ ซึ่งได้รับผลตอบรับดี จากที่เคยคิดว่า จะพักก่อน 3 เดือนดีไหม ส่วน The Mask Singer 2 ยืนยันว่า กติกาทั้งหมดจะเหมือนเดิม กรรมการหลักๆ จะเป็นชุดเดิม แต่อาจเปลี่ยนบางคนตามคิว รวมถึงผู้เข้าแข่งขัน 32 หน้ากากเหมือนเดิม สำหรับความาต่อเนื่องนั้น ได้มีการปูเอาไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ที่เปิดตัว 3 หน้ากาก ทั้ง อีกาเผือก เสือจากัวร์ และแมงมุม
ตัดสินใจเฉลย ทั้งที่กติกาเดิมคือไม่ถอดหน้ากากแชมป์!
ถือเป็นกระแสอย่างมาก สำหรับบทสรุปของ The Mask Singer ซีซั่น 1 เมื่อมีบางคนถามว่า กติกาดั้งเดิมของทางเกาหลี คือไม่ถอดหน้ากาก และให้ไปลงแข่งในซีซั่น 2 ต่อไป ชลากรณ์ได้เผยถึงประเด็นดังกล่าวว่า
"ทนกระแสไม่ไหว ก่อนหน้านี้ทอมไม่สามารถพูดกับใครได้เลย ตอนนี้หน้ากากคนอื่นๆ รับงานกันไปหมดแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะเก็บแชมป์ไว้ แต่มันแปลว่า 5-6 เดือนนี้ทอมจะไม่ได้บอกใครเลย คนดูก็จะยิ่งอึดอัดด้วย"
น่าติดตามต่อไปว่า สูตรสำเร็จนอกกรอบที่เวิร์คพอยท์สามารถสร้างปรากฏการณ์ครั้งนี้ จะสามารถต่อยอด "กดสูตรติด" เป็นครั้งที่สองในซีซั่นต่อไปหรือไม่ หรือจะสร้างกระแสอะไรที่พีคกว่านี้ได้อีก ต้องติดตาม
ขอบคุณภาพและข้อมูล www.prachachat.net
Microsoft เผยผลสำรวจ 10 อาชีพในอนาคตที่ผู้บริหารกลัวขาดคนในยุค AI
Bitkub HODL Day: สร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างสร้างสรรค์ ผ่านกีฬาสีที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับ “บิทคับ กรุ๊ป”
Orchidjobs บริการสรรหาพนักงานครบวงจร
สภาพัฒน์ฯ เผยผลสำรวจผู้บริหาร 74% ไม่จ้างพนักงานไร้ทักษะ AI ปัจจุบันคนไทยว่างงาน-หนี้เกินตัว ใช้โซเชียลกู้ยืมนอกระบบ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
