แหล่งรวมความรู้ ข่าวสาร กิจกรรมเกี่ยวกับงานที่อัปเดตทุกวัน

23 พ.ค. 2566
2857

หางาน,สมัครงาน,งาน,ข้อดีของคนสายเผือก ที่คุณต้องนำมาใช้พัฒนาตัวเอง

ขอขอบคุณคนสายเผือกจากใจจริงที่ทำให้บทความนี้เกิดขึ้น เพราะความเมาท์เก่งของคุณ ทำให้เห็นแนวคิดที่เรามองว่าเป็นข้อดีที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาตัวเองได้ทุกเรื่อง

JOBBKK อยากให้แฟนๆ นำไปปรับใช้ดูครับ ใช้พัฒนาได้ทุกเรื่องเลยจริงๆ

แต่ถ้าคุณคือ สายเผือก (ไม่ได้หลอกด่านะ) แต่อยากให้คุณอ่านและนำไปปรับใช้ด้วยครับ

ข้อดีที่ว่าจะมีอะไรบ้าง และจะนำไปปรับใช้อย่างไร ไปดูกันครับ

เขาจะมีเป้าหมายที่ชัดเลยว่าอยากรู้อะไร แล้วก็ลงมือปฏิบัติทันที (ลงมือเผือกนั่นแหละ) เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายเร็วที่สุด ที่สำคัญคือต้องเผือกให้รู้ลึก รู้จริง รู้ถึงรายละเอียดด้วย จะได้เมาท์กับเพื่อนได้อย่างเมามัน ใครถามอะไรตอบได้หมด ยิ่งถ้าเพื่อนๆ ชอบ ก็ถือว่าเขาประสบความสำเร็จขั้นสุดเลยทีเดียว

การนำมาใช้พัฒนาตัวเอง

มองเป้าหมายตัวเองให้ชัด ตอนนี้คุณต้องการอะไร แล้วต้องทำอย่างไรเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น แล้วคุณก็ลงมือทำทันที

เช่น ต้องการได้งานด่วน ก็ต้องลงมือเขียนเรซูเม่ทันที แล้วก็ส่งไปสมัครงานในตำแหน่งที่เหมาะกับคุณ

แต่สิ่งสำคัญที่สุด ต้องรู้ด้วยว่า จะต้องเขียนเรซูเม่อย่างไร ถึงจะมีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์งาน และต้องเตรียมตัวสัมภาษณ์ยังไง ถึงจะมีโอกาสได้งาน

ก็เหมือนสายเผือกที่เผือกให้รู้ถึงรายละเอียดนั่นแหละ ลงมือเผือกทั้งที ต้องรู้เก่ง ตอบได้ทุกคำถาม จะได้เมาท์กับเพื่อนได้ยาวๆ สนุกสุดๆไปเลย

คุณก็เหมือนกัน เมื่อเป้าหมายคือ ต้องการงานด่วน ฉะนั้นสมัครแล้วก็ต้องได้ไปสัมภาษณ์ และก็ต้องสัมภาษณ์ผ่านด้วย

อ่านบทความการเขียนเรซูเม่และสัมภาษณ์งานให้ได้งาน คลิก>> https://jobbkk.com/go/qgOso

แม้ชีวิตจะยุ่งแค่ไหนก็ไม่ใช่อุปสรรค เขาไม่เคยเหนื่อยกับการเผือกและไม่คิดหยุดพัก เพราะเดี๋ยวไม่มีเรื่องเมาท์กับเพื่อน ถ้ามีอะไรใหม่ที่อยากรู้ เขาจะหาเวลาเผือกให้รู้เรื่องนั้นให้ได้ ถือว่าบริหารเวลาได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

ที่บอกว่ายอดเยี่ยม ก็เพราะว่าเขาสามารถแบ่งเวลาไปลงมือทำเพื่อความสำเร็จในเป้าหมายของตัวเอง (เป้าหมายคือ อยากรู้เรื่องสักเรื่องนึง) เพราะการลงมือทำให้ถึงเป้าหมายคือสิ่งสำคัญที่สุด

การนำมาใช้พัฒนาตัวเอง

เลิกหาข้ออ้างให้ตัวเองด้วยคำว่า เดี๋ยว ,พรุ่งนี้ค่อยทำ ,ไม่มีเวลา ,เหนื่อย ,ขอพักก่อน เพื่อผัดวันในการลงมือทำให้ไปสู่เป้าหมาย ถ้ายังใช้ข้ออ้างเหล่านี้กับตัวเอง ก็คงยากที่คุณจะได้ลงมือทำเพื่อตัวเอง

สิ่งสำคัญที่สุด คือ การลงมือทำเพื่อพัฒนาตัวเองตลอดชีวิต ห้ามหยุดพัก ห้ามเหนื่อยกับการพัฒนาตัวเองเด็ดขาด ถ้าคุณอยากได้งานดีๆ อยากมีรายได้ที่สูงขึ้น อยากเลื่อนตำแหน่ง

เช่น คุณเป็นพนักงานขายสินค้า ผ่านช่องทางไลน์ อยากขายสินค้าให้ได้เยอะๆ เพื่อรายได้ที่สูงขึ้น คุณก็ต้องหาวิธีในการเข้าถึงลูกค้าเพิ่ม จะมัวรอลูกค้าเข้ามาทัก แล้วแค่คอยตอบกลับ แบบนั้นไม่ได้

คุณอาจเพิ่มช่องทางในการขาย โดยการโพสต์สินค้าลง Facebook ,การโพสต์ - แชร์ Content ลงกลุ่มต่างๆ ที่สอดคล้องกับสินค้า หรือการสร้างเพจ Facebook ซึ่งวิธีเหล่านี้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ด้วย

ถ้าคุณอยากมีรายได้ที่สูงขึ้นจริงๆ ห้ามอ้างว่า ไม่มีเวลา ,เหนื่อย หรืออ้างว่า ทำไม่เป็น ,จะแชร์โพสต์เข้ากลุ่มยังไง ,สร้างเพจยังไง ถ้าไม่รู้ก็ Search เลย ในอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลเตรียมพร้อมให้คุณทุกเรื่อง อย่ามัวรอให้คนมาบอกเลยครับ

ขอแค่ตั้งใจแล้วลงมือทำจริง คุณทำได้แน่นอน

สังเกตไหมเวลามีเรื่องเด็ดๆเกิดขึ้น ถ้าเราอยากรู้ประเด็นสำคัญๆเพียงเล็กน้อยแล้วไปถามสายเผือก เขาจะตอบได้หมด แสดงให้เห็นว่า แม้การลงมือเผือกจะต้องเก็บข้อมูลมาให้ละเอียด แต่ส่วนที่เป็นประเด็นสำคัญเขาไม่เคยตกหล่น แล้วเขาก็สามารถนำประเด็นสำคัญนี้ไปเปิดเรื่องตอนเมาท์กับเพื่อนได้อย่างเมามันด้วย เพื่อนๆ จะตั้งใจฟังตลอดเวลาที่เขาพูดเลยล่ะครับ

การนำมาใช้พัฒนาตัวเอง

การจับประเด็นสำคัญ เป็นสิ่งที่ต้องนำมาเป็นหลักของการลงมือทำในทุกเรื่องเลย เพราะมันจะส่งเสริมให้สิ่งที่ทำประสบความสำเร็จได้มากขึ้น และเราก็จะไม่เสียเวลาไปกับการทำสิ่งที่ไร้สาระหรือไม่เป็นประโยชน์ด้วยครับ

เช่น มีประกาศรับสมัครพนักงานขาย วุฒิป.ตรีทุกสาขา (ทักษะภาษาอังกฤษระดับดี คะแนน TOEIC 600 ขึ้นไป) แน่นอนว่า ประเด็นสำคัญคือต้องมีคะแนน TOEIC 600 ขึ้นไป สมมติว่าคุณก็มีคุณสมบัติตรงตามประกาศ แต่คุณไม่ได้จับประเด็นสำคัญอันนั้น แล้วก็นำเรซูเม่ที่เคยเขียนไว้ (ซึ่งไม่ได้ใส่ข้อมูลคะแนน TOEIC ) ส่งไปสมัครงานเลย แบบนี้ก็คงยากที่คุณจะได้งาน สุดท้ายก็ได้แค่บ่นว่า สมัครไปแล้ว ไม่เห็นเรียกเลย

ทุกประกาศงานล้วนมีประเด็นสำคัญที่เป็นคุณสมบัติของตำแหน่งงานนั้นเสมอ ซึ่งอาจเป็นจุดเล็กๆ แต่ทาง HR ต้องการเห็นในเรซูเม่ของคุณ เพื่อคัดเลือกมาสัมภาษณ์งาน และต่อให้คุณมีสิ่งนั้นมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่เขียนลงในเรซูเม่ HR ก็ไม่มีทางรู้ครับ

หรือถ้าคุณเป็นพนักงานขายออนไลน์ อยากขายสินค้าให้ได้มากขึ้น จากเดิมที่เคยส่งข้อมูลเป็น script ยาวๆให้ลูกค้าไปอ่านเอง ก็ลองเปลี่ยนมาจับประเด็นสำคัญในความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และคุณก็คอยให้ข้อมูลตามที่เขาต้องการ เพราะลูกค้าแต่ละคนล้วนมีคำถามที่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าคุณตอบประเด็นสำคัญที่เขาต้องการได้ ย่อมเพิ่มโอกาสให้คุณขายสินค้าได้มากขึ้นแน่นอน

ฉะนั้นเวลาจะทำอะไร อย่าลืมดูว่า สิ่งใดคือประเด็นสำคัญของเรื่องนั้น แล้วลงมือทำให้สอดคล้องกับสิ่งนั้น รับรองว่าคุณจะใช้เวลาชีวิตในแต่ละวันได้อย่างคุ้มค่าที่สุดเลยครับ

จากความสามารถในการจับประเด็นสำคัญได้ยอดเยี่ยม ส่งผลให้เขาเล่าเรื่องเก่งด้วย (แต่ถ้ามีการใส่สีตีไข่เพื่อใส่ร้ายใครคืออีกเรื่องนึงนะ แบบนั้นเราจะไม่เรียกว่าเป็นข้อดีนะครับ)

สายเผือกที่เชี่ยวชาญในการเมาท์ จะนำประเด็นสำคัญมาเล่าก่อน (ซึ่งมันคือสิ่งที่คนฟังอยากรู้มากที่สุด) แล้วก็เล่าไ ปตามลำดับความสำคัญของเรื่องเรื่อยๆ จนทำให้คนฟังเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์

การนำมาใช้พัฒนาตัวเอง

ทักษะการสื่อสารทั้งการเขียนและการพูดคือสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องมี เพราะเราต้องใช้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะสมัครงาน สัมภาษณ์งาน หรือตอนที่เข้าไปทำงานในตำแหน่งต่างๆ

ซึ่งนอกจากการใช้คำ การเรียบเรียงคำให้ได้ความหมายที่ถูกต้อง ความสำเร็จที่มากกว่าก็คือการเล่าโดยลำดับเรื่องได้น่าสนใจและทำให้คนอ่านหรือฟังสามารถเข้าใจได้ด้วย

เช่น การเขียนเรซูเม่สมัครงานในตำแหน่งพนักงานขาย วุฒิป.ตรีทุกสาขา (ทักษะภาษาอังกฤษระดับดี คะแนน TOEIC 600 ขึ้นไป) เนื่องจากตำแหน่งนี้มีประเด็นสำคัญคือทักษะภาษาอังกฤษ

เพื่อเพิ่มโอกาสการได้สัมภาษณ์งาน แทนที่จะเล่าถึงคุณสมบัติที่เป็นวุฒิป.ตรีด้านการตลาดที่เรียนมา คุณก็เขียนคุณสมบัติที่แสดงให้เห็นว่าคุณเก่งภาษาอังกฤษมาโชว์ก่อน โดยเริ่มที่การใส่ข้อมูลคะแนน TOEIC ตามด้วยประสบการณ์ที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ เช่น ตอนเรียนเคยแปลงานภาษาอังกฤษให้ทางคณะ หรือเคยทำงานพิเศษเป็นล่ามแปลภาษา จากนั้นก็ค่อยเขียนถึงทักษะด้านการตลาดว่าตอนเรียนคุณได้อะไรมาบ้าง ซึ่งอาจจะมีกิจกรรมต่างๆ ของทางคณะที่เคยเข้าร่วม รวมถึงประสบการณ์จากการฝึกงานหรือสหกิจศึกษาด้านการตลาดด้วย

ทั้งนี้ เมื่อเราลำดับเรื่องในการเขียนไปแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ในวันสัมภาษณ์งานได้อีกด้วย เพียงแค่ปรับให้เป็นภาษาพูด แล้วลำดับเรื่องพูดตามประเด็นสำคัญที่บริษัทต้องการ รับรองว่าคุณได้งานแน่นอนครับ

ฉะนั้น เวลาจะเขียนหรือพูดเรื่องใด อย่าลืมวิเคราะห์ด้วยครับ อะไรคือประเด็นสำคัญของเรื่องและเป็นสิ่งที่คนอ่านหรือฟังอยากรู้มากที่สุด ให้เอามาเล่าก่อน จากนั้นก็ลำดับเรื่องให้ดี ว่าจะเล่าอะไรต่อ เขาจึงจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ง่ายและสมบูรณ์ที่สุด

ก็ถ้าเข้าได้เฉพาะบางคน ภารกิจในการเผือกก็ยากสิครับ เขาจะทำความรู้จักและคุยได้กับทุกคน เขาจึงสามารถรู้ได้ทุกเรื่องที่อยากรู้ แม้ว่าจะโดนใครด่าว่า “เผือก” เขาก็จะไม่โกรธ ซึ่งการไม่มีความโกรธนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีมากครับ

แต่ขอย้ำว่า บทความนี้จะหมายถึงเฉพาะคนที่เผือกแล้วไปเมาท์ต่อโดยไม่บิดเบียนจากสิ่งที่ได้ยิน แค่สนุกที่ได้เมาท์กับเพื่อนเฉยๆ นะครับ แต่สายเผือกรูปแบบอื่นที่เมาท์จนทำให้ใครเดือดร้อน เราไม่พูดถึงนะ

การนำมาใช้พัฒนาตัวเอง

เมื่อเราต้องมีสังคมต่างๆ นอกจากญาติพี่น้อง คนรัก หรือเพื่อน ที่เข้ากันได้ไม่ยาก แต่เราก็ต้องพบปะ พูดคุยกับคนอื่นๆ เพื่อดำเนินชีวิตในแต่ละวันอีกมากมาย

เช่น สังคมของการทำงานที่ต้องเจอคนหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น คนเห็นแก่ตัว ไม่มีมารยาท ขี้นินทา หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ที่โตแค่ตัวกับอายุ แต่ความคิดไม่โตตาม เราอาจรู้สึกไม่อยากคุยด้วย แต่ถ้าต้องทำงานร่วมกัน ก็ต้องคุยครับ

เอาข้อดีของสายเผือกมาใช้เลย คุยกับเขาเฉพาะเรื่องงานตามปกติ แต่ถ้าเขาพูดอะไรไม่ดี ไม่ต้องใส่ใจ มันแค่คำพูดที่ไร้สาระไม่ต้องโกรธ เพราะถ้ามัวคิดมาก เรานี่แหละที่จะทุกข์ อย่าปล่อยให้เขาเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตจนเราหมดพลังชีวิตดีๆไป ชีวิตเราจะดีหรือแย่ อยู่ที่การจัดการความคิดของเราทั้งนั้น

สิ่งสำคัญที่สุดคืองานต้องเดินอย่างมีคุณภาพ อย่าปล่อยให้งานที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราต้องเสีย เพราะเรามัวใส่ใจกับพฤติกรรมแย่ๆ ของเขา

จริงๆ แล้วมันเป็นโอกาสทองของเราด้วยซ้ำ ที่ได้เจออะไรแย่ๆ จากคนเหล่านี้ เพราะเขาคือคนที่จะทำให้เรามีภูมิต้านทานในการอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้มากขึ้น และต่อไปแม้ต้องเจอคนแบบไหน อาจดีหรือแย่กว่านี้ เราจะสามารถอยู่ร่วมกับคนได้ทุกประเภทอย่างสบายๆ เลย

ถ้าสามารถนำข้อดีข้อนี้มาปรับใช้กับความคิดของเราได้ เราจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตได้มากขึ้นทุกวันแน่นอนครับ