ผู้สมัครงาน
เลือกช่องทางติดต่อ
ระบบการสอนงาน (เกี่ยวกับหน้าที่และเนื้องานของตำแหน่งนั้น) ในบางองค์กรอาจไม่แข็งแรง บวกกับพฤติกรรมพี่เลี้ยงหรือหัวหน้า (บางคน) อาจไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากพอ ส่งผลกระทบต่อพนักงานใหม่ที่อาจต้องหาทางรอดด้วยการลองทำเอง แล้วเมื่อผิดพลาดก็รู้สึกแย่ ทำให้ไม่มีความสุขกับงาน และอยากลาออกทั้งที่เพิ่งเข้าไปได้ไม่นาน
แต่ยุคนี้จะให้ออกเลยแล้วมาหางานใหม่มันไม่ง่าย แต่การทำงานก็ไม่ใช่ว่าต้องอดทนอยู่ในที่อึดอัดใจไปตลอด พอให้มีเงินเดือนใช้ ฉะนั้นถ้าเจอแบบนี้ อย่านิ่งเฉย เราต้องเป็นฝ่ายปรับตัวและลุกไปหาเขาก่อนเลยครับ
สิ่งสำคัญคือ อย่าเพิ่งคิดลบ ว่าหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานจะไม่ชอบ ไม่อยากคุยกับเรา
การเข้าไปทำงานช่วงแรก มันอาจยากหน่อย แต่ทุกคนต้องเผชิญครับ ถ้ามัวกลัวไม่เข้าไปสักที เราก็ต้องอยู่กับสถานการณ์แบบนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วจะทำงานอย่างไรล่ะ ?
ขอยกตัวอย่างสถานการณ์ที่มักเกิดขึ้น และวิธีแก้ไขนะครับ
1 มีพี่เลี้ยงเป็นหัวหน้าแต่เขาไม่สอนงาน บางทีถามไปก็ตอบว่า “ไม่รู้” ...อย่าเพิ่งไปคิดมาก ยังไงเขาก็คือคนที่เลือกเราเข้ามา ไม่ใช่ว่าเขาจะปล่อยเราไปเฉย ๆ หรอกครับ ต้องลองเข้าหาเรื่อย ๆ แบบพบหน้ากันหรือ face to face เพื่อให้คุ้นเคยและสนิทกันมากขึ้น อย่าไปกลัวแล้วเลี่ยงไปใช้วิธีไลน์หรือโทรไปถาม เพราะถ้าไม่สนิทกัน เขาอาจไม่ตอบครับ การได้เจอกันเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้เราได้สัมผัสว่าเขาเป็นคนอย่างไร บางทีอาจเป็นหัวหน้าประเภทพูดน้อย หรือสอนงานไม่เป็นก็ได้ จะได้รู้ว่าต้องทำตัวยังไงจึงจะเข้ากับเขาได้
2 มีพี่เลี้ยงที่ไม่ใช่หัวหน้า (ปกติ HR จะแจ้งให้ทราบว่าคือใครหรือหัวหน้าจะเป็นคนบอกในวันเริ่มงาน) ถ้าเขาดูไม่สนใจ ไม่สอนงานเท่าไร ก็ต้องพยายามเข้าไปหาเขาให้มากที่สุด ในเมื่อเขาได้รับมอบหมายให้เป็นพี่เลี้ยงก็ต้องสอนเราอยู่แล้ว ไม่แน่นะ เขาอาจรอเราให้เข้าไปถามอยู่ก็ได้ ถ้ามัวแต่งมหาทางเองแล้วทำผิดพลาด อาจเกิดปัญหาหนักกว่าเดิมนะครับ
3 ไม่มีพี่เลี้ยง หรือ HR ไม่แจ้งเลยว่าเป็นใคร หรือหัวหน้าดูยุ่งทั้งวันไม่มีเวลาสอน ให้ลองมองหาเพื่อนในแผนกเดียวกันดูครับ เข้าไปหาแล้วพยายามเรียนรู้งานจากเขา ทั้งจากการถามและสังเกตจากการทำงานของเขาก็ได้
ยังไงก็ต้องทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่อยู่แล้ว ถามชื่อแล้วไม่รู้จะคุยอะไรต่อ ก็เรื่องนี้แหละ แต่ก็ต้องหาจังหวะเข้าไปหาหัวหน้าด้วย เพราะถ้าห่างไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งไม่กล้าคุย การทำงานจะยิ่งยากนะครับ
4 ถ้า 3 ข้อข้างต้นไม่ได้ผล ให้ลองเข้าไปปรึกษา HR คนแรกที่ติดต่อเรามา แต่ไม่ควรมีอารมณ์ในเชิงว่าไปฟ้องนะครับ แต่เป็นการบอกเล่าว่าเจออะไรมา แล้วจะทำอย่างไรดี HR (ในบางองค์กร) สามารถให้คำปรึกษาและช่วยประสานเรื่องนี้กับคนในแผนกให้เราได้ครับ
5 ถ้าไม่ได้ผลเลยสักข้อ ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ลองหางานใหม่และไปสัมภาษณ์ให้ผ่านก่อนค่อยลาออก เพราะถ้าออกไปก่อน แล้วงานอาจหายากกว่าที่คิด จะทำให้เครียดกว่าเดิมครับ ต้องให้กำลังใจตัวเองแล้วสู้อยู่ไปก่อน ยังไงที่นี่ก็ทำให้เรามีเงินใช้ครับ
ขอบคุณข้อมูล : อาจารย์ พรเทพ พงษ์สง่างาน ที่ปรึกษาอาวุโสด้าน HR และกรรมการ บริษัท เซ็นเมนทอร์ จำกัด ,กรรมการบริหาร APK Management Center
Website : www.senmentor.com
Line : wisebrown
Tel : 081-820-9271
มีโอกาสได้งานทันที คลิกสมัครเรซูเม่วันนี้ ฟรี
หางานด่วน เปิดรับกว่า 148,161 อัตรา คลิก >> https://jobbkk.com/go/YtvVO
7 Steps to improve your work life balance in 2024 สร้างสมดุลชีวิตกับการทำงาน สำหรับคนทำงานยุคใหม่
สรุปข้อดี-ข้อเสีย งานประจำ VS ธุรกิจส่วนตัว อะไรดีกว่ากัน?
เลิกจ้างกะทันหัน ลูกจ้างไม่ได้ทำผิด นายจ้างต้องจ่ายอะไรบ้าง ภายในกี่วัน
ไม่มีสัญญาจ้าง กฎหมายคุ้มครองไหม ถ้าโดนเลิกจ้างกะทันหันจะฟ้องได้รึเปล่า
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
