ราคาทองคำปิดตลาดทรงตัวใกล้ระดับปิดของวันศุกร์ หลังจากในระหว่างวันมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาจนทำให้ราคาทองอ่อนตัวลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,200 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ การคาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางยุโรปยังเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน ซึ่งส่วนหนึ่งส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าและกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทอง แต่ในอีกด้านหนึ่งมีการประเมินว่าเงินทุนที่มีมากขึ้นก็อาจกลับเข้ามาซื้อทองคำที่ราคาปรับตัวลงมามาก จึงส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาทองในระยะนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบลง
โดยราคาทองคำปิดตลาดวานนี้ที่ 1,198.50 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ลดลง 2.30 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,192 และ 1,205 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 18,600 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,500 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 720.91 ตัน
ราคาทองคำอ่อนตัวลงในการซื้อขายระหว่างวันหลังจากที่มีแรงขายทำกำไรกลับออกมา ก่อนที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมินจะกลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยในช่วงค่ำที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐ สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศในเดือนตุลาคมลดลงสู่ 0.14 จาก 0.29 ในเดือนกันยายน สะท้อนให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่ชะลอลงในเดือนที่แล้ว ส่วนดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศโดยเฉลี่ยในช่วง 3 เดือน ซึ่งมีความผันผวนน้อยกว่า ปรับตัวลงสู่ -0.01 ในเดือนตุลาคม เทียบกับ 0.12 ในเดือนก่อนหน้า โดยดัชนีที่ต่ำกว่า 0 บ่งชี้ว่าการขยายตัวของกิจกรรมการผลิตต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ขณะที่ดัชนีที่เป็นบวกแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวที่สูงกว่าแนวโน้ม ส่วนผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนปรับตัวลงมาอยู่ที่ 56.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน จาก 57.1 ในเดือนตุลาคมซึ่งเป็นการชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยนักวิเคราะห์อาวุโสของมาร์กิตกล่าวว่า การขยายตัวที่ชะลอลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันของภาคบริการตอกย้ำถึงสัญญาณบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นทางเศรษฐกิจได้อ่อนแรงลงอย่างมาก แม้ว่าดัชนียังคงอยู่ในระดับที่แสดงถึงภาวะการขยายตัวก็ตาม ส่วนประเด็นอื่นๆ ในสัปดาห์นี้นอกจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองแล้ว การลงมติของประชาชนชาวสวิตเซอร์แลนด์เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับการเพิ่มปริมาณทองคำในทุนสำรอง และการประชุมของประเทศกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง หากการลงมติไม่สนับสนุนให้มีการเพิ่มปริมาณทองเข้าในทุนสำรองและมีการลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ก็จะกดดันให้ราคาทองกลับอ่อนตัวลง
ส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำซึ่งวานนี้ปิดทรงตัวที่บริเวณ 1,200 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ภาพเทคนิคจึงยังมีแนวโน้มฟื้นตัว ในระหว่างวันราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,185-1,190 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ยังคงสามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไร โดยคาดว่าราคาทองจะปรับตัวขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 1,210 และ 1,220 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ได้ต่อไป แต่กรณีที่ราคาอ่อนตัวลงต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,175-1,180 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก็จะเป็นสัญญาณการอ่อนตัวหลังจากที่ราคาทองฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันหลายสัปดาห์.
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
