ากกรณีอุบัติเหตุ รถยนต์ พุ่งตกจากอาคารจอดรถห้างสรรพสินค้าย่านบางกะปิ มีความสูง 6 ชั้น หลังมีอุบัติเหตุชนกับรถคันอื่นบนอาคารก่อนจะเสียหลักพุ่งตกลงจากอาคาร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตนั้น ล่าสุด"ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์" ได้สอบถามกูรูด้านรถยนต์ อ.พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ และ ศักดิ์ นานา หรือ กีกี้ นักแข่งรถดริฟท์ระดับโลก ได้ให้คำแนะนำที่น่าสนใจดังนี้
อ.พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ กูรูด้านยานยนต์ เปิดเผยกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า ส่วนตัวคิดว่าสาเหตุไม่น่าจะใช่คันเร่งค้าง เพราะคันเร่งปัจจุบันเป็นคันเร่งไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเกิด คิดว่า น่าจะมีได้แค่ 0.001 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะฉะนั้น ปัญหา น่าจะเกิดมาจากมีอะไรไปขวางแท่นเบรก ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่อง human error หรือความผิดพลาดของมนุษย์มากกว่า
หากต้องเผชิญหน้าปัญหาคันเร่งค้าง จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรนั้น อ.พัฒนเดช กล่าวว่า ปัญหาเรื่องนี้ มันไม่น่าเกิดในปัจจุบัน แต่ถ้ามี สิ่งที่ควรทำก็คือ ปิดสวิตช์กุญแจรถ ดับเครื่องยนต์ จากนั้นพวงมาลัยรถจะหนักขึ้น คันเบรก ก็จะเหยียบยากขึ้น ก็ค่อยประคองรถเพื่อจอด ซึ่งจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
แต่อย่างไรก็ดี ที่จริงปัญหาเรื่องนี้ ควรจะเลิกคิดกันได้แล้ว สำหรับรถเทคโนโลยีใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ หากจะขับรถสิ่งแรกที่ต้องมีคือ "สมาธิ" หากขับรถในลานจอดรถทันทีที่ติดเครื่องคือ ต้องเปิดไฟหน้ารถ ส่วนฝ่ายเจ้าของสถานที่ต้องดูเรื่องการจัดการจราจรภายใน ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เพราะบางที่จุดอับมีเยอะเกินไป" กูรูเรื่องรถ กล่าว
นอกจากนี้ อ.พัฒนเดช ยังได้ฝากข้อเตือนใจสำหรับการขับรถในลานจอดรถ ว่า ลานจอดรถนั้นเป็นที่ที่คนขับรถประมาทเลินเล่อที่สุด เพราะคิดว่ามันไม่ใช่ถนน ผมรณรงค์เรื่องนี้มา 7-8 ปีแล้ว ว่า การขับรถในลานจอดรถควรเปิดไฟหน้า ด้วยเหตุผลที่ว่า รถที่จอดเรียงหัวกัน เราไม่รู้ว่าคันไหนมันจะออก ส่วนคันที่ออก หากไม่เปิดไฟหน้าเราก็ไม่รู้ว่ามีรถมาหรือเปล่า เพราะลานจอดรถบางแห่งรถก็มาทางขวา บางแห่งก็มาทางซ้าย คนที่ขับรถในลานจอดรถ บางทีสมาธิก็ไม่ได้อยู่ที่ข้างหน้า เพราะมัวแต่มองว่าช่องไหนมันว่างบ้าง
"สิ่งสำคัญของลานจอดรถคือ 1. การจัดระบบในลานจอดรถ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย 2. จุดอับต่างๆ เช่น ขนาดของเสา เป็นจุดบอดของสายตาหรือไม่ 3. ลานจอดรถเป็นสถานที่มืดทึบ คนขับรถควรจะมีการเปิดไฟหน้า เพราะทันทีที่เข้าลานจอดรถ ควรจะเปิดไฟใหญ่เลย จะได้เห็นกันและกัน"
ด้าน ศักดิ์ นานา หรือ กีกี้ นักแข่งรถดริฟท์ระดับโลก กล่าวกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า ปัญหาคันเร่งค้างนั้น หากเป็นรถรุ่นเก่าๆ ที่ยังใช้สายคันเร่งอยู่นั้น ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะหากมีการใช้รถไปนานๆ โดยเฉพาะหากเกินกว่า 50,000 กิโลเมตร แล้วไม่มีการเปลี่ยน ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุสายคันเร่งค้างได้ แต่หากเป็นรถรุ่นใหม่ๆ ที่มีการใช้ระบบไฟฟ้าแล้วนั้น โอกาสที่จะเกิดคันเร่งค้างเป็นไปได้น้อยมาก เว้นเสียแต่กล่องควบคุมจะมีปัญหาขัดข้อง จากการที่ผู้ใช้ ไปซื้ออะไหล่ปลอมมาติดตั้ง จนทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
นักซิ่งดริฟท์อันดับหนึ่งของเมืองไทย ได้แนะนำวิธีสำหรับนักขับรถว่า หากเจอปัญหาคันเร่งค้างนั้น วิธีที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดก็คือ ให้ดับเครื่องทันที เพราะทันทีที่ดับเครื่อง รถจะกระตุกและหยุดการเคลื่อนไหว
โดยจากประสบการณ์แข่งรถที่ผ่านมา ตนเองก็เคยเจอปัญหาดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งเกิดจากเมื่อมีการเปลี่ยนเครื่องใหม่ แล้วไม่ได้มีการตั้งสายคันเร่งที่ดีพอ จนทำให้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งตนเองก็ใช้วิธีดับเครื่องโดยทันทีเช่นกัน
ส่วนข้อแนะนำสำหรับการขับรถในลานจอดรถนั้น ตนเองอยากแนะนำว่า ลานจอดรถส่วนใหญ่เป็นมุมอับ และมีจุดบอดเยอะมาก และที่อันตรายอีกอย่างคือ รถบางคันอาจใส่เกียร์ค้างไว้ เมื่อสตาร์ตรถ รถก็อาจจะพุ่งออกมาได้โดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด ตนเองอยากแนะนำให้นักขับทั้งหลาย ขับรถให้ช้าประมาณไม่เกิน 9-10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงจะปลอดภัยที่สุด และควรเปิดไฟเพื่อให้สามารถมองเห็นสิ่งรอบด้านได้ชัดเจน เพราะต้องไม่ลืมว่า ลานจอดรถตามห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวคือให้บรรจุรถให้มากที่สุด เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีจุดอับและมีอันตรายค่อนข้างมาก
ด้านคำถามที่ว่า เหตุใดกำแพงปูนกั้นลานจอดรถ จึงไม่สามารถสกัดรถไม่ให้พุ่งออกจากตัวอาคารได้นั้น กีกี้ กล่าวว่า กำแพงปูนตามลานจอดรถ ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ปะทะรถ เช่นตามถนนหลวง หรือทางด่วนต่างๆ ที่วิศวกรออกแบบ โดยมีการใช้รถเทรลเลอร์พุ่งชนเพื่อทดสอบยังกระเด้งกลับ เพราะฉะนั้น หากรถวิ่งปะทะกำแพงปูนตามลานจอดรถ ด้วยความเร็วประมาณ 30-50 กิโลเมตร ก็จะทะลุได้แล้ว
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
