สแกนนิคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในวันหมดแรง รถคันแรก

  • 11 พ.ค. 2563
  • 1064
หางาน,สมัครงาน,งาน,สแกนนิคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในวันหมดแรง รถคันแรก

สแกนนิคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในวันหมดแรง รถคันแรก

"ทีมข่าวเศรษฐกิจไทยรัฐออนไลน์" ขอนำเสนอบทสัมภาษณ์ประธาน ส.อ.ท. ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. และผู้บริหารบริษัทเอกชนด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย...

ปีที่ผ่านมา และรวมถึงปีนี้ อาจไม่ใช่ปีที่ดีของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ซึ่งถ้าว่ากันจากตัวเลขยอดขายรถยนต์รวมแล้วได้มีการปรับยอดเป็นระยะ สาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ กำลังซื้อถูกใช้ไปล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อโครงการรถคันแรก เศรษฐกิจซบเซา ผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก เผชิญปัญหาภัยแล้งและผลผลิตด้านการเกษตรตกต่ำ เป็นต้น

แต่อีกด้านหนึ่งผู้ผลิตและจำหน่ายรถยี่ห้อต่างๆ ก็ไม่ได้นิ่งเฉยรอชะตากรรม แข่งขันเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ พร้อมแคมเปญยั่วยวนใจสารพัดเพื่อรักษาฐานที่มั่น ดังนั้น เพื่อให้เห็นถึงภาพรวมทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ทีมข่าวเศรษฐกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอนำเสนอบทสัมภาษณ์จากผู้เกี่ยวข้อง

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศซบเซามาจากนโยบายรถคันแรกที่ยังคงส่งผลถึงปัจจุบัน ทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศค่อนข้างจะหดตัวลงต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมโดยรวมถือว่าดีขึ้นจากปีที่แล้ว

อุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ ดีกว่าปีที่แล้ว การส่งออกปีนี้เติบโต 10% คาดว่า ส่งออกต่างประเทศได้ประมาณ 1,200,000 คัน แต่ในประเทศค่อนข้างลดลง เฉลี่ยประมาณ 10% ประมาณ 700,000 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว

 

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

"การแข่งขันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถแข่งในระดับโลกอยู่แล้ว ประเทศไทยอยู่ในระดับ 7-8 ของโลก แม้ว่าความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจะลดลง แต่ว่าตลาดรถยนต์ไทยค่อนข้างแข็งแรง ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง" ประธาน ส.อ.ท. กล่าว

นายองอาจ พงศ์กิจวรสิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยลดลงมาจากพืชผลการเกษตรตกต่ำ ซึ่งในส่วนนี้ รัฐบาลพยายามแก้ไขอยู่ รวมทั้งในเรื่องการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัว เรื่องการปล่อยสินเชื่อค่อนข้างเข้มงวด การเบิกจ่ายการลงทุนจากภาครัฐ ซึ่งรัฐพยายามปล่อยเงินออกมา แต่ไม่เต็ม 100% โดยรวมคือ สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ความมั่นใจลดลง โดยเฉพาะเรื่องราคาพืชผลการเกษตรที่ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ส่วนนี้เป็นประเด็นค่อนข้างสำคัญ ซึ่งทางรัฐบาลได้อัดฉีดเงินไปแล้ว ต้องรอดูผลต่อเนื่อง

สำหรับสาเหตุการส่งออกรถยนต์ดีขึ้นนั้น ส่วนแรกคือ รถเก๋ง ที่มีการเพิ่มการส่งออกมากขึ้น เนื่องจากมีโครงการอีโคคาร์ กำลังการผลิตก็เพิ่มขึ้น ส่วนที่ 2 เรื่องรถกระบะ เพิ่งฟื้นกลับมา หลังจากบริษัทรายใหญ่เปลี่ยนรุ่น ส่งผลให้การส่งออกต่างประเทศปีนี้จากเดิม 1,140,000 คัน โดยประมาณ ก็เพิ่มเป็น 1,200,000 คัน

เมื่อถามภาพรวมระยะ 3-5 ปี จากนี้ นายองอาจ กล่าวว่า มองอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศดีขึ้นแน่นอน หลังจากรัฐบาลได้แก้ไข หากไม่มีปัญหาอะไรร้ายแรงทางด้านเศรษฐกิจ จีดีพี โดยคาดว่า ทุกอย่างมีแต่จะดีขึ้น เพราะขณะนี้น่าจะถึงจุดต่ำสุด ยกตัวอย่างเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ยอดขายเพิ่มขึ้นนิดหน่อย ส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากตลาดโลก

 

ยอดส่งออกรถยนต์ดีขึ้น ...

ทั้งนี้ ในประเทศไทยนับว่าเป็นฐานการผลิตที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง มีการใช้รถกระบะในด้านการเกษตรเพิ่มขึ้น และจากโครงการอีโคคาร์ ประเทศไทยสามารถส่งออกเพิ่มขึ้น ในด้านจุดแข็งของประเทศไทย ต้องยอมรับว่า ไทยมีฐานการผลิตที่มีมานานได้สร้างอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งปกติการจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ส่งออก ต้องมองปัจจัย 3 อย่าง คือ 1. เรื่องคุณภาพ 2. เรื่องต้นทุน และ 3. เรื่องความรวดเร็วในการส่ง

"เราต้องพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไปเรื่อยๆ ซึ่งในส่วนนี้ คู่แข่งพยายามแย่งฐานกันอยู่ ต้นทุนจะประหยัดได้ตรงไหน จะพัฒนาตรงไหนให้ดีขึ้น เพิ่มกิจกรรมต่างๆ มีการลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ต้นทุนถูกลง เช่น ท่าเรือแหลมฉบัง ที่ค่อนข้างแออัดก็ต้องขยายกันไป ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอยู่ รวมทั้งถนนในการขนส่ง การใช้รถไฟการขนส่งทั้งรถและชิ้นส่วน เรื่องบุคลากร ต้องพัฒนาให้มีทักษะเพิ่มขึ้น เพราะถ้ามีพื้นฐานต่ำ ต่อไปจะอยู่ยาก ถ้าสามารถพัฒนาทักษะได้จะช่วยทำให้อุตสาหกรรมไทยแข็งแกร่งยิ่งขึ้น" นายองอาจ กล่าว

ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวต่อว่า แม้ว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี จะเกิดขึ้นเต็มรูปแบบ อาจส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม ในส่วนของอุตสาหกรรมรถยนต์ก็เช่นกันที่จะต้องศึกษาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงแนวทางในการปรับตัวในการรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทำให้ตลาดนี้ มีการเพิ่มขึ้นของประชาชนชั้นกลางจำนวนมาก ทำให้มีความต้องการยานยนต์เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง และสิ่งที่จะตามมาคือ การแข่งขัน แต่รูปแบบอาจจะเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม การเปิดเออีซีนั้น สามารถเป็นได้ทั้งพันธมิตรและคู่แข่ง ถ้าเป็นพันธมิตร จะช่วยให้ต้นทุนในอาเซียนถูกลง หากในด้านการแข่งขันจะแข่งกันในด้านคุณภาพสินค้ามากกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากการกีดกันมาตรการทางภาษีมีแนวโน้มลดลงจนเป็นศูนย์ แต่ว่าประเทศไทย ยังอยู่ในฐานะประเทศที่มีความได้เปรียบ

 

ความต้องการยานยนต์เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง

นายองอาจ กล่าวถึงภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ ว่า แม้เศรษฐกิจในประเทศไม่ดี แต่ไทยยังได้การส่งออกมาชดเชย ทำให้ภาพรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศยังทรงตัว ซึ่งไทยเราต้องพยายามพัฒนาตัวเอง เพื่อรักษาฐานการผลิตให้ ไม่เช่นนั้นคู่แข่งก็มาเคาะประตูบ้าน แย่งฐานการผลิตไปได้

"อุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์ นับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ สามารถนำเข้าเงินตราต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล และยังเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอีกหลายประเภท โชคดีประเทศไทยได้เปรียบคู่แข่งตรงที่มีตลาดในประเทศ และการส่งออก ถ้าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจในประเทศไม่ดี ก็เน้นส่งออกแทน แต่อย่าลืม ตัวหลักต้องได้ทั้ง 2 ด้าน ทั้งพัฒนาตลาดในประเทศ เน้นฐานการผลิต รวมถึงพัฒนามุ่งเน้นการส่งออก เพราะถ้าได้เพียงด้านเดียวอาจไปไม่รอด พยายามพัฒนาตัวเราเอง จุดนี้จะทำให้เราเป็นฐานที่อยู่อย่างยั่งยืนต่อไป" นายองอาจ กล่าว

ด้าน นายบ๊อบ ไพลล์ ประธานด้านเทคโนโลยีส่วนยานยนต์ขนาดย่อมบริษัท ดาน่า โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนระดับโลกในด้านการผลิต จำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ กล่าวถึงมุมมองต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทยว่า แม้ว่าในปีนี้ความเชื่อมั่นหดตัวลง แต่เป็นเรื่องของธุรกิจที่มีขึ้นมีลงเสมอ ถือว่าเป็นความท้าทายของนักธุรกิจที่จะได้แก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาต่อเนื่อง

 

โรงงานผลิต จำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัท ดาน่า โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น

ผู้บริหาร บริษัท ดาน่า โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น กล่าวต่อว่า หากมองในด้านการส่งออกอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยมีแนวโน้มดี ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคระยะยาวมองเห็นการเติบโตในอนาคต ที่สำคัญคือ ต้องเพิ่มกำลังการผลิต ตระหนักในความต้องการของตลาด ความต้องการของลูกค้า และมองถึงส่วนได้ส่วนเสียที่จะเกิดขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการตลาดที่ดี มีรัฐบาลที่ดีมีบทบาทสำคัญ

มีรายงานเพิ่มเติมยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน ส.ค. 2558 มี 61,988 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.9% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา 1.58% เนื่องจากรถรุ่นใหม่เริ่มเข้าสู่ตลาด สำหรับยอดขายรถยนต์ในประเทศรอบ 8 เดือนแรกของปีนี้ มี 491,960 คัน ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.07% ขณะที่ยอดขายในประเทศล่าสุดตั้งไว้ที่ 850,000 คัน ส่วนการส่งออกปีนี้ ยังคงเป้าหมายเดิมที่ 1.2 ล้านคัน และคาดว่า ยอดรวมทั้งหมดจะยังคงอยู่ที่ 1.95 ล้านคัน.    

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ 

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top