4 ตำแหน่งยอดนิยมสายขนส่งและคลังสินค้าที่ตลาดแรงงานต้องการสูงสุด
พนักงานคลังสินค้า (Warehouse Staff)
ดูแลการจัดเก็บ แพ็คสินค้า ตรวจนับ และจัดเรียงสินค้าให้ถูกต้องตามระบบ เป็นตำแหน่งที่ต้องการมากในทุกอุตสาหกรรม
ตัวอย่างตำแหน่ง: พนักงานจัดสินค้า, พนักงานแพ็คของ, เจ้าหน้าที่สต็อกสินค้า, Warehouse Operator
เจ้าหน้าที่ขนส่ง / ขับรถส่งสินค้า (Logistics / Delivery Staff)
รับผิดชอบการขนส่งสินค้าให้ถึงปลายทางอย่างปลอดภัยและตรงเวลา ต้องรู้เส้นทางและรักษามาตรฐานการส่งมอบสินค้า
ตัวอย่างตำแหน่ง: พนักงานขับรถขนส่ง, พนักงานจัดส่งสินค้า, พนักงานขนถ่ายสินค้า
หัวหน้าแผนกคลังสินค้า / โลจิสติกส์ (Warehouse / Logistics Supervisor)
ดูแลการทำงานในคลังสินค้าและการขนส่งทั้งหมด ควบคุมทีมงาน ตรวจสอบสต็อก วางแผนเส้นทาง และบริหารต้นทุน
ตัวอย่างตำแหน่ง: Warehouse Supervisor, Logistics Coordinator, Inventory Controller
เจ้าหน้าที่วางแผน / ควบคุมขนส่ง (Planning / Transport Controller)
เน้นการจัดเส้นทาง วางแผนตารางขนส่ง ติดตามสถานะการจัดส่ง และประสานงานระหว่างแผนก
ตัวอย่างตำแหน่ง: Transport Planner, Dispatch Officer, Fleet Coordinator, Route Planning Officer
เคล็ดลับพิชิตงานสายขนส่งและคลังสินค้า
เทรนด์เงินเดือนและทักษะที่ต้องมีเพื่อเพิ่มโอกาสได้งาน
อุตสาหกรรมขนส่งและคลังสินค้ามีความสำคัญมากในยุคอีคอมเมิร์ซ การจัดส่งที่รวดเร็วและการบริหารคลังที่แม่นยำคือหัวใจสำคัญที่นายจ้างต้องการ
สิ่งสำคัญที่คนสายขนส่ง/คลังสินค้าต้องรู้:
เทรนด์เงินเดือนสายขนส่งและคลังสินค้า
- พนักงานคลังสินค้า / ขนส่งเริ่มต้น: 12,000 – 18,000 บาท
- เจ้าหน้าที่โลจิสติกส์ / สต็อกสินค้า: 18,000 – 25,000 บาท
- หัวหน้าแผนกคลังสินค้า / ขนส่ง: 25,000 – 40,000 บาท
- ผู้จัดการโลจิสติกส์ / คลังสินค้า: 45,000 – 80,000 บาทขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และขนาดองค์กร)
ทักษะที่นายจ้างต้องการ
- ความรู้ด้านระบบจัดการคลังสินค้า (WMS, ERP, Barcode System)
- ทักษะการจัดเส้นทางขนส่ง และการใช้ GPS / ระบบติดตาม
- การตรวจสอบเอกสารสินค้า ใบส่งของ และการจัดเก็บสต็อก
- ความสามารถในการยกของและจัดเรียงสินค้าอย่างเป็นระบบ
- มีทักษะการทำงานเป็นทีม ความละเอียดรอบคอบ และตรงต่อเวลา
เคล็ดลับการสมัครงานสายขนส่งและคลังสินค้า
- เขียน Resume ให้ชัดเจนว่ามีประสบการณ์ด้านคลังสินค้า / ขนส่งแบบใด
- ระบุเครื่องมือหรือโปรแกรมที่เคยใช้ เช่น WMS, Excel, หรือระบบสแกนบาร์โค้ด
- เพิ่มใบอนุญาตขับขี่ หรือใบรับรองด้านโลจิสติกส์ (เช่น การอบรม TDS / Safety) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
- หากเคยทำงานกับบริษัทขนส่งใหญ่ เช่น Kerry, Flash, DHL, Shopee Xpress ควรระบุไว้ให้เด่นในเรซูเม่