จากชวามุ่งสิงคโปร์ 162ชีวิต-ยังมืดมน! คาดพายุชนวนเหตุ
สลดส่งท้ายปีม้า เครื่องบินแอร์เอเชียอินโดนีเซีย จู่ๆหายไปจากเส้นทางการบิน ขณะเหินฟ้าจากเมืองสุราบายาไปสิงคโปร์ โดยนักบินขอเปลี่ยนเส้นทางเพื่อเลี่ยงพายุ ก่อนขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการบิน คาดตกหลุมอากาศอย่างแรงจนตกกลางทะเล ห่างเกาะเบลิตุง ของอินโดนีเซียประมาณ 145 กม. ผู้นำมาเลเซียเมีย ปธน.อินโดนีเซีย ร่วมสวดมนต์อ้อนวอน ขอให้ 162 ชีวิต บนเครื่องปลอดภัย ด้านญาติผู้โดยสารได้แต่รอปาฏิหาริย์
สำนักข่าวต่างประเทศ ทั้งเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ รายงานในช่วงสายวันที่ 28 ธ.ค.ว่า เครื่องบินแอร์บัส 320-200 ของสายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เที่ยวบินคิวแซด (QZ) 8501 ที่เดินทางจากสนามบินนานาชาติจวนดาในเมืองสุราบายาของอินโดนีเซีย ไปประเทศสิงคโปร์เมื่อเวลา 05.35 น. วันที่ 28 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมด้วยลูกเรือและผู้โดยสาร รวม 162 คน ได้ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการบินในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย เมื่อเวลา 07.24 น. และสนามบินนานาชาติชางฮีในสิงคโปร์ ประกาศแจ้งผู้มารอรับผู้โดยสารจากเที่ยวบินดังกล่าวว่าเที่ยวบินจะเดินทางถึงสนามบินช้ากว่ากำหนด จากเดิมต้องถึงสนามบินชางฮีในเวลา 08.30 น. แต่มิได้ให้รายละเอียดใดๆ
กระทั่งต่อมานายฮาดี มุสโตฟา เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมแห่งอินโดนีเซีย แถลงข่าวยืนยันว่าเที่ยวบินคิวแซด 8501 ของสายการบินแอร์เอเชีย ขาดการติดต่อไปจริง พร้อมระบุว่ามีการสอบถามเส้นทางบิน ซึ่งไม่ใช่เส้นทางปกติกับทางศูนย์ควบคุมฯ ภาคพื้นดิน ก่อนเครื่องบินจะขาดการติดต่อไปขณะแล่นผ่านน่านฟ้าเหนือทะเลชวา ระหว่างเกาะกาลิ-มันตันและเกาะชวาของอินโดนีเซีย เมื่อเวลาประมาณ 07.55 น. ขณะที่นายโจโก มูร์โย อัตโมโจ ผู้อำนวยการ สำนักงานขนส่งทางอากาศอินโดนีเซีย เผยรายละเอียดของเที่ยวบินดังกล่าวว่า มีคนอยู่บนเครื่อง 162 คน แยกเป็นผู้โดยสาร 155 คน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 138 คน เยาวชน 16 คน และทารกอีก 1 คน ส่วนพนักงานประจำเครื่อง 7 คน แยกเป็นนักบิน 2 คน ลูกเรือ 4 คน และวิศวกรประจำเครื่องบิน 1 คน
จากนั้นสายการบินแอร์เอเชีย สำนักงานใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ออกแถลงการณ์ผ่านทางเฟซบุ๊กว่าเที่ยวบินคิวแซด 8501 ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการบินภาคพื้นดินตั้งแต่เวลา 07.24 น. วันที่ 28 ธ.ค. โดยผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องบินแยกตามสัญชาติ เป็นชาวอินโดนีเซีย 156 คน ชาวเกาหลีใต้ 3 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นทารก 1 คน ชาวสิงคโปร์ 1 คน ชาวมาเลเซีย 1 คน และชาวฝรั่งเศสอีก 1 คน ขณะที่นักบินผู้ควบคุมเครื่องบินมีประสบการณ์การบินมาแล้ว 6,100 ชั่วโมงบิน และผู้ช่วยนักบินมีประสบการณ์การบิน 2,275 ชั่วโมงบิน ส่วนเครื่องบินได้รับการตรวจสอบสภาพพร้อมใช้งานครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 16 พ.ย.2557
กระนั้น ทางสายการบินแอร์เอเชียยังไม่อาจระบุสถานะของผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดได้ แต่ยืนยันว่าหากสายการบินได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจะแจ้งรายละเอียดให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านได้รับทราบโดยทั่วกัน ขณะเดียวกัน แอร์เอเชียได้ตั้งศูนย์ฉุกเฉินเพื่อให้บริการสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์แก่ครอบครัว และญาติมิตรของผู้โดยสารและลูกเรือที่อยู่บนเครื่องบิน ลำดังกล่าวที่เบอร์ +622129850801 และ +622129270811 และทางสายการบินได้เตรียมความพร้อมของหน่วยค้นหาและกู้ภัยเพื่อรับมือเหตุฉุกเฉินแล้วเช่นกัน
ขณะที่เฟซบุ๊กของสายการบินแอร์เอเชีย ทั้งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย ได้เปลี่ยนโลโก้ของสายการบินที่แต่เดิมเป็นสีแดงขาวมาเป็นสีดำขาวหลังเกิดเหตุเที่ยวบินคิวแซด 8501 ขาดการติดต่อ และผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ทั่วโลก ทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ได้ติดแท็กข้อความ #pray forQZ8501 (ภาวนาเพื่อคิวแซด 8501) และ #pray forairasia (ภาวนาเพื่อแอร์เอเชีย) พร้อมเผยแพร่ข้อความให้กำลังใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้กันเป็นจำนวนมาก
ส่วนแอร์เอเชีย ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ 2 ฉบับ ระบุขณะนี้ทีมค้นหาและช่วยเหลือกำลังเร่งทำงานภายใต้คำแนะนำจากสถาบันการบินพลเรือนของอินโดนีเซีย (Indonesia of Civil Aviation Authority หรือ CAA) และแอร์เอเชียอินโดนีเซียได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในทุกทาง เครื่องบินทำการบินตามเส้นทางที่ได้แจ้งไว้ ก่อนจะถูกขอให้เบี่ยงออกจากเส้นทางระหว่างทางเนื่องจากสภาพอากาศ ก่อนจะขาดการสื่อสารกับหอบังคับการบิน ขณะนั้นยังอยู่ในการควบคุมของหอบังคับการบินอินโดนีเซีย (Indonesian Air Traffic Control หรือ ATC)
อย่างไรก็ดี ตลอดบ่ายจดค่ำวันเดียวกัน สื่อต่างๆ ยังคงเกาะติดและรายงานผลการติดตามหาเครื่องบินลำดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานการบินพลเรือนสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ว่าทางสิงคโปร์ได้รับแจ้งเหตุเที่ยวบินคิวแซด 8501 ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการบินในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียราว 30 นาทีหลังเกิดเหตุ และรัฐบาลสิงคโปร์ได้ออกคำสั่งให้กองทัพเรือและกองทัพอากาศเตรียมความพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทางอินโดนีเซีย โดยจะส่งเครื่องบินรุ่นซี-130 จำนวน 2 ลำเพื่อปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้ภัยผู้โดยสารและลูกเรือเที่ยวบินคิวแซด 8501 ทันทีที่ได้รับเรื่องขอความช่วยเหลือจากทางการอินโดนีเซีย
ต่อมา นายโจโก มูร์โย อัตโมโจ ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งทางอากาศอินโดนีเซีย แถลงเพิ่มเติมว่า ก่อนที่เที่ยวบินคิวแซด 8501 จะขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมไปนั้น เครื่องบินแล่นอยู่ที่ระดับ 32,000 ฟุตเหนืออ่าวตันจุงปันดัน ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองปอนติอานัก ในเขตเวสต์กาลิมันตัน บนเกาะ บอร์เนียวของอินโดนีเซีย และนักบินขอข้อมูลเส้นทางการบินที่ระดับ 38,000 ฟุต เพราะต้องการบินออก นอกเส้นทางเดิมที่ระดับความสูง 32,000 ฟุตเพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มเมฆและสภาพอากาศที่เลวร้าย จากนั้นการติดต่อระหว่างเครื่องบินและศูนย์ควบคุมได้ขาดหายไป แต่ยังถือเป็นพื้นที่ในเขตการควบคุมดูแลของสำนักงานควบคุมทางอากาศแห่งอินโดนีเซีย โดยเชื่อว่าเที่ยวบินคิวแซด 8501 หายไปขณะบินอยู่เหนือทะเลชวาระหว่างเมืองตันจุงปันดัน บนเกาะเบลิตุงกับเมืองปอนติอานัก จังหวัดกาลิมันตัน ตะวันตก บนเกาะบอร์เนียวของอินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าอยู่กลางทางระหว่างเมืองสุราบายากับสิงคโปร์ อีกทั้งขณะเครื่องบินขาดการติดต่อนั้น มีรายงานว่าเกิดสภาพอากาศเลวร้ายเหนือเกาะเบลิตุง ส่วนการค้นหาทางน้ำและอากาศ ซึ่งเป็นปฏิบัติการร่วมของกองทัพและสำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติของอินโดนีเซีย (บาซาร์นาส) รวมทั้งสิงคโปร์และมาเลเซีย ยังดำเนินอย่างต่อเนื่องโดยรอบพื้นที่ดังกล่าว แต่ยังไม่มีรายละเอียดอื่นๆ
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย ทวีตข้อความด้วยการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับทางสายการบินแอร์เอเชียว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ทราบว่า สายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เที่ยวบินคิวแซด 8501 หายไป เราเป็น เสมือนครอบครัวเดียวกัน และทางการมาเลเซียก็พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ นางไอรีนา วิโดโด ภรรยาประธานาธิบดี โจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย เขียนข้อความผ่านสังคมออนไลน์ว่า ประธานาธิบดีวิโดโดซึ่งอยู่ระหว่างประกอบภารกิจบนเกาะปาปัวตะวันตก สวดมนต์อ้อนวอนให้ลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดของเที่ยวบินคิวแซด 8501 ปลอดภัยทุกคน
ด้านนายเสข วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย กล่าวในเวลาต่อมาว่า เที่ยวบินคิวแซด 8501 ของสายการบินแอร์เอเชียขาดการติดต่อไปนั้น สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสิงคโปร์ ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วไม่พบคนไทย โดยสารในเที่ยวบินนี้
ส่วนบรรยากาศที่สนามบินนานาชาติจวนดาเมืองสุราบายา จังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นต้นทางของเที่ยวบินคิวแซด 8501 และที่สนามบินชางฮี ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินนี้ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า มีครอบครัวของผู้โดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าว เดินทางมารอติดตามข่าวอย่างตื่นตระหนก โดยผู้หญิงชาวอินโดนีเซีย อายุ 45 ปี เปิดเผยที่สนามบินนานาชาติจวนดาว่า ตนมีสมาชิกครอบครัว 6 คนบนเที่ยวบินดังกล่าว กำลังเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนวันหยุดที่สิงคโปร์ ที่ผ่านมามักเลือกบินกับแอร์เอเชียและไม่เคยมีปัญหา จึงรู้สึกตกใจมากที่ได้ยินข่าวและวิตกอย่างมากด้วยว่าเครื่องบินอาจประสบอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์จาการ์ตา โพสต์และสำนักข่าวอันตาราของอินโดนีเซีย ต่างรายงานในเวลาต่อมาว่าเจ้าหน้าที่หน่วยค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติของอินโดนีเซีย (บาซาร์นาส) ระบุว่า เที่ยวบินคิวแซด 8501 คาดว่าตกลงในน่านน้ำ ห่างชายฝั่งเกาะเบลิตุง ประมาณ 145 กม.ซึ่งทีมค้นหาเดินทางไปยังบริเวณดังกล่าวแล้ว และเชื่อด้วยว่าเครื่องบินลำดังกล่าวได้บินวนเหนือทะเลใกล้เกาะเบลิตุง เพื่อเลี่ยงพายุแต่กลับตกหลุมอากาศร้ายแรงจนตกลงไปในทะเล
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศมาเลเซียครั้งนี้ ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งที่ 3 ในรอบปีนี้ ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจการบินของมาเลเซีย โดยโศกนาฏกรรมครั้งแรกเป็นกรณีเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เดินทางจากมาเลเซียไปจีน พร้อมผู้โดยสาร 239 คน ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมไปตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา และยังหาเครื่องบินไม่พบจนถึงขณะนี้ และกรณีเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ เดินทางจากเนเธอร์แลนด์มายังมาเลเซียเมื่อวันที่ 17 ก.ค. แต่กลับถูกขีปนาวุธยิงตกที่สาธารณรัฐยูเครน ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 298 รายเสียชีวิตทั้งหมด
ต่อมาในเวลา 18.38 น. ตามเวลาในไทย นายฮาดี มุสโตฟา เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมของอินโดนีเซีย แถลงว่า ภารกิจค้นหาเที่ยวบินคิวแซด 8501 ที่สูญหาย ได้ยุติลงชั่วคราวเมื่อเวลา 17.30 น. เนื่องจากท้องฟ้าเริ่มมืด อีกทั้งสภาพอากาศไม่สู้ดีนัก เนื่องจากเริ่มมีเมฆปกคลุม และภารกิจการค้นหาจะเริ่มอีกครั้งในเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 29 ธ.ค.หรืออาจเร็วกว่านี้ หากว่าสภาพอากาศเอื้ออำนวย
ช่วงค่ำวันเดียวกัน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเสียใจและความห่วงใย พร้อมระบุว่าไทยพร้อมส่งความช่วยเหลือหากได้รับการร้องขอ จากเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแอร์เอเชีย เที่ยวบินคิวแซด 8501 ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบินจาการ์ตา ระหว่างเดินทาง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานว่าไม่มีผู้โดยสารที่เป็นคนไทย แต่นายกฯ ได้แสดงความเป็นห่วง และบอกไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือหากได้รับการร้องขอจากประเทศที่เกี่ยวข้อง
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
