วิกฤติ! พบเยาวชนไทยท้องไม่พร้อมเกินค่ามาตรฐาน ตั้งท้อง 52 รายต่อพัน กรมสุขภาพจิตชี้ ต่ำกว่า 20 ปี ท้องซ้ำ 20% บางรายมีลูกรอบ 3 เหตุบรรยากาศพาไป 70% สมยอม 30% อีก 5% เรียบร้อยจนโดนข่มขืน ทิศทางเปลี่ยนหญิงรุกชายแทน แนะพ่อแม่สอนลูกแบบเล็ก ชัด ลึก
จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จัดเวที สช. เจาะประเด็น "สานพลังสังคม ... สกัดท้องวัยทีน" เพื่อเร่งเดินหน้าสรุปมติสมัชชาสุขภาพในเรื่องดังกล่าวนั้น
วันที่ 11 ก.พ. พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการติดตามอัตราการคลอดในหญิงอายุ 15-19 ปี ในปี 56 พบว่า สัดส่วนอยู่ที่ 52 คน ใน 1,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าค่ากลาง 50 คน ต่อประชากร 1,000 คน จากการสำรวยังพบด้วยว่า เหล่าคุณแม่วัยใสจะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรสาคร
พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อว่า เมื่อสอบถามถึงสาเหตุของการตั้งครรภ์ไม่พร้อม จากกลุ่มเยาวชนหญิง สามารถแบ่งได้เป็น 3 กรณี คือ 1.ฝ่ายชายให้กำลังบังคับเกือบ 5% 2.ยินยอมพร้อมใจ 30% และ 3.ไม่ได้ตั้งใจจะมีเพศสัมพันธ์ แต่บรรยากาศพาไปสูงถึง 70% ซึ่งช่วงวันวาเลนไทน์จะพบกลุ่มนี้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากความหมายที่ผิดเพี้ยนเทศกาล และบรรยากาศชวนให้ถูกชักจูงได้ง่าย
"กว่า 5% กลุ่มเด็กผู้หญิงที่เรียบร้อย จัดอยู่ในกลุ่มอ่อนแอ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ หากประมาทไว้ใจผู้อื่นมากเกินไป ส่วนกลุ่มที่ยินยอมพร้อมใจมีเซ็กซ์นั้น ต้องให้ความรู้เรื่องการป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และป้องกันการท้องไม่พร้อม สร้างความตระหนักถึงผลที่จะตามมา เพราะใช้วิธีการห้ามอย่างเดียวคงจะไม่สัมฤทธิ์ผล" รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว
พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อว่า กลุ่มสุดท้ายที่มีเซ็กซ์โดยบรรยากาศพาไป ทางแก้ไขคือ ต้องไม่ให้เยาวชนอยู่กันสองต่อสอง หรือต่างฝ่ายต่างต้องรู้จักการปฏิเสธ หักห้ามใจ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องรู้จักสื่อสารให้เป็นและกล้าคุยกับลูก ใช้โอกาสที่ดีอย่างเทศกาลวันแห่งความรักสอนเรื่องเพศ ส่วนการสอนเรื่องเพศศึกษาในโรงเรียนนั้น อยากให้มีการปรับการสอน เนื่องจากที่ผ่านมา มักสอนตามหลักสูตรเน้นความรู้ แต่ไม่ทันกับการที่เด็กนำไปใช้งานเพื่อป้องกันตนเอง
อย่างไรก็ดี ปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งในการตั้งครรภ์ของวัยรุ่น พบว่า เยาวชนไทยอายุไม่ถึง 20 ปี มีการตั้งครรภ์ซ้ำถึง 20% โดยกลุ่มนี้มีจำนวนหนึ่งที่เป็นการตั้งครรภ์ ครั้งที่ 3 ดังนั้น ต้องมีมาตรการในการดูแลป้องกันอย่างบูรณาการ ทั้งการจัดคลินิก หรือบริการ ที่เป็นมิตรสำหรับวัยรุ่น โดยทุกอย่างต้องเริ่มจากพ่อแม่ในการสอนและรับฟัง
"มีกรณีศึกษาเยาวชนชาย อายุ 16 ปี ระบุว่ามีเพื่อนหญิงคนสนิท อายุ 17 ปี ขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยตลอด หากอยู่กัน 2 ต่อ 2 จนทำให้ฝ่ายชายอึดอัด ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร บางรายเป็นนักศึกษาแพทย์บ่นอยากฆ่าตัวตาย เพราะถูกฟันแล้วทิ้ง เหล่านี้สะท้อนว่า แนวโน้มในปัจจุบันเปลี่ยนไป ผู้หญิงมีความมั่นใจและแสดงออกมากขึ้น ขณะที่ผู้ชายให้ความสำคัญกับเรื่องความสัมพันธ์และความรู้สึกมากขึ้น แต่ทั้งหมดยังตามหารักแท้ และพ่อแม่ยังมีความสำคัญในเรื่องมิติทางเพศไม่ต่างจากเดิม” พญ.พรรณพิมล กล่าวย้ำ
ด้าน น.ส.จิตติมา ภาณุเตชะ ผจก.แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง กล่าวว่า หากจะให้เด็กเข้าใจและเรียนรู้เรื่องเพศ ผู้ใหญ่และเด็กต้องมองเรื่องเพศเป็นวิถีชีวิต ซึ่งรูปแบบการพูดคุย หรือให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศกับเด็กและวัยรุ่น ต้องเน้นแบบเล็ก ชัด ลึก และต่อเนื่อง
"ผู้ปกครองต้องเริ่มจากประเด็นที่เด็กๆ สนใจ แล้วพูดคุยให้ความรู้เรื่องนั้นอย่างตรงไปตรงมา ตรงประเด็นแบบเจาะลึก เช่น สนใจเรื่องอวัยวะเพศหญิง ก็เรียกตรงๆ ตามที่เรียก ไม่ต้องใช้ศัพท์แทนว่า 'จิ๊มิ' หรือ 'จิ๋ม' ซึ่งหากดำเนินการเช่นนี้ จะเป็นการติดตั้งความคิด 2 เรื่องให้กับเด็ก คือ เพศเป็นเรื่องของเขา และเรื่องเพศคุยและพูดได้ เห็นได้จากการประเมินผลหลังจากจัดค่ายวัยใสที่ใช้แนวทางนี้ พบว่า เด็ก ม.2 กล้ามาปรึกษาว่า ตกขาวผิดปกติมีสีเหลืองและมีกลิ่นจะต้องทำอย่างไร เป็นต้น" น.ส.จิตติมา ระบุ.
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
