สุดสลด! พบช้างป่าจมโคลน นอนตายอยู่กลางหนองน้ำ เขตป่ากุยบุรี

  • 11 พ.ค. 2563
  • 961
หางาน,สมัครงาน,งาน,สุดสลด! พบช้างป่าจมโคลน นอนตายอยู่กลางหนองน้ำ เขตป่ากุยบุรี

จนท.อุทยานฯ กุยบุรี ระดมกำลังกูซากช้างป่า นอนจมน้ำตายอยู่กลางหนองน้ำบ้านรวมไทย ป่ากุยบุรี คาดว่าพลัดตกหนองน้ำแล้วขึ้นไม่ได้ ตายมาแล้ว 3-4 วัน เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น ขณะที่ภาครัฐและเอกชนผนึกกำลังเร่ง พลิกผืนป่าให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
 

เหตุการณ์สลดพบช้างป่าวัยรุ่นจมโคลนตายครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 ก.พ. 58 นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วย นายประวัติ ศาสตร์จันทร์เทพ หน.อุทยานแห่งชาติกุยบุรี นายทัศนะ ศรีวิลาศ หน.โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรีฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบพื้นที่โครงการพระราชดำริป่ากุยบุรี หลังได้รับแจ้งว่า พบช้างวัยรุ่นจมน้ำตายอยู่กลางหนองน้ำในพื้นที่โครงการพระราชดำริป่ากุยบุรี บ้านรวมไทย ม.7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหนองน้ำปากทางเข้าบ่อหนึ่ง ห่างจากหน้าผาจุดชมช้างป่าและกระทิงป่ามาทางทิศตะวันตก ประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นหนองน้ำกว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร กลางหนองน้ำพบร่างช้างตัวหนึ่งนอนตะแคงข้างซ้ายจมอยู่ในน้ำ

จนท.กำลังเข้าพิสูจน์ซากช้างวัยรุ่น ถึงสาเหตุที่นอนตายอยู่ในแอ่งน้ำ ในป่ากุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นช้างเพศผู้ อายุ 3-5 ปี น้ำหนักประมาณ 400 กิโลกรัม สภาพซากมีหนอนขึ้น เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่า คาดว่าตายมาแล้ว 3-4 วัน สัตวแพทย์หญิงเนตรนภา วิทิตธรรมคุณ สถานีเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย ได้เก็บชิ้นเนื้อและกระดูกไปตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุการตายของช้างอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่า ช้างตัวดังกล่าวคงลงมาเล่นน้ำและเกิดจมโคลน ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ จนหมดแรงและจมน้ำเสียชีวิตในที่สุด

นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนัน ต.หาดขาม อ.กุยบุรี เผยว่า ปีนี้ภัยแล้งมาเร็วกว่าปกติและมีความแห้งแล้งมากกว่าในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จึงส่งผลให้สัตว์ป่าในพื้นที่ป่ากุยบุรี เริ่มคลาดแคลนแหล่งน้ำ ต้นหญ้า ที่เป็นอาหารของสัตว์ป่า จำพวกช้าง กระทิง เก้ง กวาง และสัตว์อื่นๆ อีกจำนวนมาก ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของลูกช้าง น่าจะเกิดมาจากการพลัดหลงจากฝูง จนเกิดสภาพร่างกายอ่อนแอ ลงมากินน้ำในสระแห่งนี้ เกิดพลัดตกลงไปและช่วยตัวเองไม่ได้ เสียชีวิตในที่สุด นับเป็นการสูญเสียที่น่าเสียดายอย่างมาก

"จากการตรวจสอบพื้นที่รอบบริเวณขอบสระ โดยใช้เครื่องสแกนหาวัตถุโลหะ ไม่พบโลหะ หรือวัตถุที่เป็นอันตรายต่อลูกช้าง และทำให้ลูกช้างเสียชีวิตแต่อย่างใด และในวันพรุ่งนี้ 25 ก.พ. 58 ทางอุทยานกุยบุรี รวมทั้งภาครัฐและเอกชนจากหลายหน่วยงานรวมทั้งประชาชน ได้มีการผนึกกำลังพลิกผืนป่ากุยบุรีให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง โดยมีการปรับปรุงแปลงหญ้าและเติมน้ำตามแอ่งกระทะที่ได้ทำไว้ เพื่อรองรับน้ำให้สัตว์ป่าได้ดื่มกิน" นายศรีสวัสดิ์ กล่าว

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top