“อยากรู้เรื่องยาคูลท์...ถามสาวยา คูลท์ดูสิคะ” สโลแกน คุ้นหูนี้คิดโดย ประพันธ์ เหตระกูล เจ้าพ่อยาคูลท์ประเทศไทย เนิ่นนานมาแล้วแต่หลายคนยังจดจำได้ดี
วันเวลาผ่านไปประโยคนี้กลายเป็นคำพูดยียวนกวนหัวใจในหมู่เพื่อนฝูงคนสนิท แต่ตัดให้สั้นลงเมื่อฝ่ายหนึ่งคิดอะไรไม่ออก ตอบไม่ได้ ก็มักจะพูดกันทำนองว่า “อยากรู้คำตอบ ก็ลองไป...ถามสาวยาคูลท์ดู”
“สาวยาคูลท์”...มีต้นกำเนิดที่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ 80 ปีมาแล้ว แม้วันเวลาจะเปลี่ยนไปแต่สาวยาคูลท์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ สาวยาคูลท์ต้องมีความรู้ ต้องได้รับการอบรม เรียนรู้คุณประโยชน์ของจุลินทรีย์ เมื่อลูกค้าถาม...ยาคูลท์ดีต่อร่างกายอย่างไรจะได้ตอบได้อย่างมีหลักการน่าเชื่อถือ
ลองไปติดตามการทำงานของสาวยาคูลท์กันดูสักตั้งว่าเป็นอย่างไร เวลา 08.00 น. ที่ศูนย์ยาคูลท์ “กินซ่า เซ็นเตอร์” กลางกรุงโตเกียว เป็นรอบประชุมทีมสาวยาคูลท์ 8 ชีวิตชุดแรกของวัน และจะมีอีกสองรอบในเวลา 08.50 น. กับ 09.15 น. ประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมหลังจากจัดเตรียมสินค้าใส่รถเข็นส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การประชุมตอนเช้าเปรียบเสมือนการซ้อมรบเวลาเจอหน้าลูกค้า เพราะถ้าอธิบายดี ยิ้มแย้ม แจ่มใส พูดคุยถูกใจ...ลูกค้าก็จะตอบรับดี ติดใจกลายเป็นลูกค้าขาประจำ เหตุผลสำคัญก็คือความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งสาวยาคูลท์ต้องตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละคนให้ได้ วันนี้จะกินอะไรดี...เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกค้าแต่ละคน
ความดันสูง...จะดื่มอะไรดี? มีปัญหาลำไส้ ขับถ่ายไม่สะดวก...ควรทานอะไรดี?
“คำพูด” กับ “ความรู้” และ “ความจริงใจ”...ให้คนมีสุขภาพดี เป็นสิ่งสำคัญที่สาวยาคูลท์ต้องมี และให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน
เวลาประชุม สาวยาคูลท์คนไหนมีปัญหาก็จะบอกเล่าสู่กันฟัง โดยมีหัวหน้าศูนย์คอยให้คำปรึกษาหรือไม่ก็รับฟังข้อแนะนำอะไรมาจากลูกค้า ก็นำมาปรับปรุง ตรวจสอบการทำงานให้ดียิ่งๆขึ้นไป
ในบรรยากาศการประชุม จะมีการเข้าแถวเรียบร้อย ร้องเพลงเข้าจังหวะ ตรวจเช็กความสะอาดทั่วร่างกายตั้งแต่ ผม เล็บ มือ เรียกว่าเสื้อผ้า...หน้า...ผมต้องพร้อม พร้อมกันนั้นยังฝึกคำทักทาย...คำพูดกับลูกค้า คำขอโทษ คำขอบคุณ คำกล่าวต้อนรับ เพื่อกระตุ้นให้สาวยาคูลท์เกิดความตื่นตัว พร้อมรับสถานการณ์
สินค้ามีมากมายหลากหลาย สาวยาคูลท์แต่ละคนจึงต้องวางแผน เพราะปัญหาใหญ่มีว่าลูกค้าไม่ได้บอกว่าวันนี้จะซื้ออะไร ต้องตัดสินใจตอนที่เจอหน้ากันเท่านั้น ถ้าเมื่อวานที่ซื้อเอาไว้ยังไม่ได้กินวันนี้ก็คงไม่ซื้อ หรือจะเลือกสินค้าอย่างอื่นก็มีความเป็นไปได้สูง นอกจากนี้ยังมีสินค้าใหม่ๆที่ต้องติดไม้ติดมือไปแนะนำลูกค้าอีก
ยาคูลท์...โยเกิร์ต สาวยาคูลท์ทุกคนต้องมีเหมือนๆกัน ส่วน...น้ำชา น้ำส้ม เครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟ...ก็แล้วแต่ลูกค้าใครจะมีมากมีน้อยไม่เท่ากัน เพราะซื้อที่ไหนก็ได้ โดยเฉพาะตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติที่มีตั้งอยู่มากมาย
น่าเห็นใจสาวยาคูลท์เสียจริง...ไมโกะ สึกาวะ สาวยาคูลท์ วัย 28 ปี เข็นรถก้าวพ้นประตูศูนย์ฯเดินหน้าตรงดิ่งไปยังอาคารสำนักงานเป้าหมาย ผ่านแยกก็หลายแยก ข้ามถนน เดินต่อไปเรื่อยๆ...ข้ามถนนหลายรอบ กว่าจะถึงจุดหมายแรก ใช้เวลาเกือบ 15 นาที
กดลิฟต์ขึ้นไปชั้น 5 เตรียมสินค้าใส่กระเป๋าหิ้วสะพายตามจำนวนลูกค้าที่จดเอาไว้ ทดลองแบกน้ำหนักราว 15 กิโลกรัม กระเป๋าคู่กายถูกหยิบมาใช้แทนรถเข็นเพราะเข็นเข้าไปในห้องทำงานไม่ได้และไม่สะดวก สาวยาคูลท์จะต้องแวะเวียนเข้าไปหาลูกค้าทีละคนๆจนกระทั่งครบทั้งชั้น...ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 นาที
บางคน...จ่ายเป็นรายเดือนก็ต้องเช็กด้วยว่าวันนี้เอายาคูลท์มาส่งแล้ว โดยจะมีใบตารางวันทั้งเดือนแผ่นเล็กๆติดไว้บนโต๊ะ หรือบางคน...ไม่สั่งประจำก็จะจ่ายเป็นเงินสด ซื้อแล้วจ่ายเงินทันทีก็มีมากอยู่เหมือนกัน
ก่อนลงลิฟต์ไปต่อก็ต้องจัดเตรียมสินค้าเอาไว้ล่วงหน้าแล้วก็ไล่ลงมาทีละชั้น...ชั้น 4...ชั้น 2 กระทั่งเปลี่ยนตึกไปเรื่อยๆจนครบ
ทุกจุดตามที่วางแผนเอาไว้ เป็นภารกิจประจำอย่างนี้ทุกวัน
ข้อสำคัญที่คนนอกอาจจะไม่รู้ สาวยาคูลท์ญี่ปุ่นเวลาเข้าหาลูกค้าที่นั่งทำงานอยู่กับโต๊ะ จะต้องนั่งคุกเข่าคุยกับลูกค้า เวลาเดินก็ต้องเดินอย่างเงียบๆ ห้ามส่งเสียงดังเด็ดขาด
ระยะเวลา 3 ชั่วโมง ไมโกะเดินไม่หยุด ไปตามจุดต่างๆในรัศมีทำการ จุดหลักๆแม้ว่าจะมีอยู่เพียง 5 จุด แต่เมื่อแยกย่อยรายชั้น
รายแผนก รายคนแล้วถือว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยอยู่มากทีเดียว
ออกจากศูนย์ 09.15 น. กว่าจะกลับก็ราวๆเที่ยงครึ่ง รวมระยะทางเดินราว 2.3 กิโลเมตร ไมโกะเล่าระหว่างเดินว่า เธอเพิ่งเป็นสาวยาคูลท์ได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น ลูกค้าที่มีอยู่ในมือถือว่ายังไม่เยอะ แม้ว่าจะมีลูกค้าใหม่เข้ามาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นลูกค้าเก่าที่สาวยาคูลท์รุ่นพี่ส่งต่อมาให้ดูแล
“แต่ละวัน เจอหน้าลูกค้าบางคนก็จะถามขึ้นมาว่า...วันนี้เมาค้าง ไม่สบาย จะกินอะไรดี เราก็จะบอกว่ากินอะไรจึงจะดี ช่วยได้ หรือถ้าเจ็บ...ปวดท้องจะกินอะไรคู่กับอะไรอย่างนี้เป็นต้น”
ลูกค้าบางคนก็ซื้อยาคูลท์ดื่มทุกวัน วันละขวดก็มี ทำให้ต้องจดไว้อย่างละเอียด ลูกค้าคนไหนเป็นอย่างไร มีนิสัยยังไง ชอบอะไรบ้าง... นี่คือความใส่ใจ และความตั้งใจจริงที่สาวยาคูลท์มีต่อลูกค้าในความดูแล
สาวยาคูลท์ญี่ปุ่นเลือกวันทำงานได้ สำหรับไมโกะเลือกทำงานวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เหตุผลสำคัญก็เพราะเธอมีลูกเล็ก ก่อนหน้านี้มีปัญหาเนิร์สเซอรี่ใกล้บ้านเต็มหมด ทำให้ไปสมัครงานที่ไหนไม่ได้ แต่ยาคูลท์มีเนิร์สเซอรี่เป็นของตัวเอง ถ้ามาทำงานเป็นสาวยาคูลท์ก็ฝากลูกเอาไว้ได้ ถือเป็นสวัสดิการของสาวยาคูลท์
นี่คือเหตุผลสำคัญที่เธอเลือกเป็นสาวยาคูลท์ และปัญหานี้ก็ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของคนเมืองใหญ่โตเกียวถาม ไมโกะ หาลูกค้ายากหรือง่าย? เธอบอกว่า อย่างที่บอกไปแล้วว่า ลูกค้าส่วนหนึ่งมาจากสาวยาคูลท์รุ่นพี่แบ่งมาให้ แต่ลูกค้าใหม่ที่หาเองก็เริ่มมีเข้ามาบ้างแล้ว แต่ค่อยๆเพิ่ม...นั่นหมายถึงว่า ลูกค้าเริ่มรักสาวยาคูลท์คนนี้เข้าเสียแล้ว และนอกจากรัก...ก็ยังไว้ใจเสียด้วย
ปัญหาและอุปสรรคเป็นเรื่องที่จะไม่ถามก็ไม่ได้ แน่นอนว่าสาวยาคูลท์คงไม่ได้รับความสะดวกไปเสียทุกอย่าง ย่านกินซ่าเป็นย่านสำนักงาน ไม่มีบ้านคน ลูกค้าทั้งหมดจึงเป็นพนักงานออฟฟิศ อยู่ในอาคารตึกสูงต่างๆ
ปัญหาสำคัญก็คือว่า ออฟฟิศบางแห่งเข้มงวดมาก จะเดินเข้าไปหาลูกค้าถึงโต๊ะไม่ได้ จำเป็นต้องขออนุญาตให้ลูกค้าออกมาหาด้านนอก เป็นอีกรายละเอียดสำคัญในการรู้ข้อจำกัดลูกค้า เพราะนั่นหมายถึงว่าจะได้มีลูกค้ามากขึ้น
ตอกย้ำแนวทางสำคัญ “คำพูด” ...“ความรู้” และ “ความจริงใจ”...ให้คนมีสุขภาพดี ที่ ดร.มิโนรุ ชิโรต้า ผู้ค้นพบจุลินทรีย์ตัวดีในลำไส้ สายพันธุ์ชิโรต้า วางแนวคิดเอาไว้เป็นจิตวิญญาณยาคูลท์ตั้งแต่แรกเริ่ม
ความตั้งใจ...อยากให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข สุขภาพดีที่มาจากภายใน...เกิดภูมิคุ้มกันด้วยการกินสิ่งที่มีประโยชน์... ดังคำกล่าวที่ว่า “พ่อตาย...แม่หางานทำยาก ลูกก็ลำบาก ถ้าทุกคนแข็งแรง ครอบครัวก็มีความสุข”...เมื่อเทียบกับการเติบโตทางธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป เสมือนการทำนาของตัวเอง ต้องใส่ใจ ต้องใช้เวลา ดูจะเป็นความสวยงามที่ค่อยๆงอกงามสวนทางกับความวุ่นวายในสังคมยุคปัจจุบัน
ทั้งหมดเหล่านี้นับเป็นความยิ่งใหญ่ของ “ยาคูลท์ ฮอนช่า” ที่สืบทอดแนวคิดต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 80 ปีเต็ม ผ่านการทำงานที่เป็นทีเด็ดของสาวยาคูลท์.
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
