ปุจฉา.....เหตุใดคุณภาพชีวิตของพวกเราคนไทย จึงต่ำต้อยด้อยค่ากันนัก กระทั่งอยู่ดีๆ ยังถูกประตูบ้านล้มลงมาทับจนเสียชีวิตได้? คำถามที่ทีมข่าวเฉพาะกิจ อยากขอชวนให้แฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ ช่วยกันคิดในวันนี้ดูว่า มันจริงหรือไม่
เรื่องหญ้าปากคอก ที่ควรจะสามารถป้องกันได้ โดยใช้วิธีการที่สุดแสนจะง่ายดาย หรือ หากแม้เพียงผู้รับเหมาก่อสร้างมีจริยธรรมเพียงพอ และไม่เห็นแก่ได้จนมากเกินพอดี รวมทั้งตัวเจ้าของที่พัก นึกชะเอะใจ และช่างสังเกต แม้เพียงสักเล็กน้อย......
ทำไม ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงชวนแฟนๆ ทุกท่านมาร่วมกันสนทนาในเรื่องนี้? นับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป จะมีทั้งคำถามและคำตอบ ที่เชื่อว่าทุกท่านสงสัยกันมานานแล้วว่า ทำไมแค่ประตูบ้านล้มใส่จึงถึงกับต้องเสียชีวิต เรื่องนี้มีสาเหตุ มาจากอะไร ความสะเพร่าของช่าง หรือ อุปกรณไม่ได้มาตรฐาน? และมันจะสามารถจะป้องกันหรือมีวิธีการสังเกตระวังป้องกัน หรือไม่ ในวันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีคำตอบ.......
ประตูเหล็กบ้านเรา ต้องตากแดดตากฝนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นโอกาสจะเป็นสนิมก็ย่อมง่าย
เรื่องที่ไม่ควรจะเกิด จนถึงขั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตได้ แต่ในประเทศไทย เรื่องประตูบ้านล้มลงมาทับคนจนเสียชีวิต กลับกลายเป็นเรื่องแทบจะเกิดขึ้นเป็นปกติ จริงหรือไม่? หากถ้าทุกท่านไม่เชื่อเช่นนั้น...... ทีมข่าวเฉพาะกิจ จะขอย้อนอดีต กลับไปดูเหตุซ้ำๆ ซากๆ ที่เกิดขึ้น จนแทบไม่ควรที่จะไปเรียกแล้วว่า เป็นเหตุการณ์กรณีศึกษา ที่ควรนำไปเป็นบทเรียนสำหรับการระวังป้องกัน เพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกในอนาคต.....
เหตุการณ์แรก ขอย้อนเวลาไปวันที่ 28 ต.ค. พ.ศ.2541 เวลา 11.30 น. ณ โรงเรียนประถมชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านยานนาวา ขณะที่ เด็กน้อย 3 คน ประกอบด้วย ด.ช.วีรยุทธ เฉวียงวาศ หรือ น้องนัท อายุ 9 ขวบ ด.ช.กรกช โชคเฉลิม หรือ น้องตือ ด.ช.ชาญชัย ยิ้มสง่า หรือ น้องแตงโม อายุ 8 ขวบ ณ เวลานั้น กำลังกุลีกุจอ ช่วยกันดันประตูโรงเรียน เพื่อเปิดประตูให้รถของครูพละ คนหนึ่งซึ่งต่อมาภายหลัง อ้างว่า กำลังจะออกไปติดต่อราชการ ทั้งๆ ที่ ยังไม่หมดเวลาการเรียนการสอน.....แต่ใครจะเชื่อ อีกเพียงไม่กี่วินาทีให้หลังจากนั้น จะเกิดเรื่องโศกสลด จนยากจะเกินบรรยายได้........
จากปากคำของครูพละรายนี้ ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ว่า ขณะที่ตนเองกำลังจะดันประตูอัลลอย น้ำหนักเกือบครึ่งตัน ขนาดกว้าง 6 เมตร สูง 2.5 เมตร เพื่อเปิดทางขับรถออกจากโรงเรียนไปติดต่อราชการ นั้น ปรากฏว่าประตูเลื่อนเกิดฝืด เนื่องจากไม่ค่อยได้ใช้งานทำให้เปิดยาก พอดีใกล้ๆ กัน มีกลุ่มเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่ง เห็นเข้า จึงวิ่งกรูกันเข้ามา เพื่อช่วยตนเองดันประตูด้วยความหวังดี แต่แล้ว จู่ๆ กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อลูกล้อประตูมรณะเกิดหลุดออกจากราง จนล้มลงมาทับร่างของเด็กนักเรียน จนล้มระเนระนาด แต่ ด.ช.เคราะห์ร้ายทั้งสามคนอยู่ด้านในสุด จึงถูกทับเข้าเต็มที่!
หากเลือกใช้ประตูเหล็กขนาดใหญ่ ต้องคำนึงว่า ยิ่งมีขนาดใหญ่ น้ำหนักของประตูก็จะยิ่งมากขึ้น เพราะฉะนั้นควรมีล้อเลื่อนประตูให้มากขึ้น
โดย น้องนัท สังเวยชีวิตเป็นรายแรก เนื่องจากถูกประตูน้ำหนักครึ่งตันล้มฟาดหัว มีบาดแผลที่ศีรษะด้านขวาถึงกะโหลกยุบ เลือดออกที่ช่องท้อง สุดความสามารถของแพทย์ที่จะยื้อชีวิตไว้ได้ หลังจากถูกนำตัวส่ง รพ.จุฬาฯ เพียง 30 นาที
ส่วน ด.ช.กรกช สลบแน่นิ่ง มีบาดแผลที่ศีรษะแตกตรงกลาง สมองบวม ในเวลาต่อมา ก็เสียชีวิตสังเวยประตูมรณะไปอีกราย หลังจากเข้าพักรักษาตัว ที่ รพ.ตัวนานกว่า 1 เดือน ขณะที่ ด.ช.ชาญชัย บาดเจ็บสาหัส แต่ในเวลาต่อมาได้รับการรักษาจนรอดชีวิตไปได้อย่างหวุดหวิด
ในเวลาต่อมา ด.ช. ผู้รอดชีวิต ได้ให้ปากคำกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ขณะที่กำลังช่วยกันออกแรงเข็นประตูออกจนสุดเหล็กกั้น นั้น ปรากฏว่าตัวบานประตูเกิดหลุดออกจากรางเหล็ก แล้วล้มครืนลงมาทับร่างตนเองและเพื่อนๆ ทันที โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อรู้สึกตัวพยายามดันประตูขึ้นจากลำตัว แต่น้ำหนักประตูเหล็ก ที่หนักมากถึงครึ่งตัน จึงยกไม่ขึ้น เมื่อหันไปมองเพื่อนร่วมชะตากรรมอีก 2 คน ก็พบว่า นอนแน่นิ่งไปแล้ว อีกไม่กี่อึดใจต่อมา จึงเห็นทั้งครูและนักเรียนคนอื่นๆ วิ่งกรูเข้ามาช่วยกันยกประตูเหล็กออก และนำส่ง รพ.
ประตูโรงงาน ควรเป็นแบบมิดชิดและมีขนาดใหญ่ เพื่อความเป็นส่วนตัว
กรณีแรกนี้ กลายเป็นข่าวครึกโครมโด่งดังอย่างมาก ณ เวลานั้น แต่.....เป็นที่น่าสังเกตว่า แทนที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้บริหารสถานศึกษา หรือ กระทรวงศึกษาธิการ หรือ ตำรวจ จะมุ่งไปที่มุ่งหาข้อเท็จจริง ว่า เหตุใดประตูเหล็กมรณะ จึงสามารถตกมาจากรางเหล็กได้ หรือ หาทางตรวจสอบ และระวังป้องกันตามสถานศึกษาต่างๆ ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก แต่กลับมุ่งไปที่ ตัวครูพละ ฐานประมาทเลินเล่อที่ให้เด็กมาช่วยเข็นประตูมากกว่า....... จนที่สุดก็เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีกจนได้........
ผ่านไปอีกร่วม 10 ปี หลังจากเรื่องดังกล่าวกลายเป็นเรื่องโด่งดังครึกโครมอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อกาลเวลาเลยผ่าน เรื่องนี้ ก็เหมือนอีกหลายๆ เรื่องที่เกิดเคยขึ้นในสังคมไทย แทนที่จะใช้เป็นบทเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้น มากกว่าที่จะรอให้มันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ในปี ในวันที่ 22 พ.ย. พ.ศ.2551 เหตุสลดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง.....
ประตูเหล็กล้มทับ อนุบาล 2 จ.อุบลราชธานี กะโหลกยุบ ดับสยอง
โดยผู้ที่ตกเป็นเหยื่อคราวนี้ เป็น ด.ช.วัยเพียง 4 ขวบ เท่านั้น ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ช.ปฏิวัติ ทุมมา หรือ น้องอ็อตโต้ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ถูกประตูเหล็กดัดขนาดกว้างประมาณ 5 เมตร ของ โรงเรียนอนุบาลชื่อดัง ใน จ.อุบลราชธานี ล้มทับจนกะโหลกยุบ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังถูกนำตัวส่ง รพ.ราชเวช เพียงไม่นาน
ส่วนสาเหตุในครั้งนี้ เกิดจากระหว่างที่น้องอ็อตโต้ กำลังยืนรอบิดา ที่หน้าประตูรั้วโรงเรียน ผู้ปกครองของนักเรียนอีกคนหนึ่ง ได้ไปถอดกลอนประตูเหล็กอีกข้างที่ปิดไว้ เพื่อจะเปิดประตูรั้วทั้งสองบาน ทำให้บานประตูเหล็กหลุดออกจากที่ล็อกแล้วล้มพับออกไปด้านนอกรั้วโรงเรียน จนทับร่างของเด็กน้อยแดดิ้น ในที่สุด ..... และก็เหมือนเดิมหลังจากเรื่องนี้ เลือนหายไปกับความทรงจำ อีก 6 ปี ให้หลัง ก็เกิดเหตุซ้ำรอยเดิมอีกจนได้........
4 ขวบดับ ประตูเหล็กโรงเรียน ใน จ.ยะลา ล้มทับ
ถัดมาในปี พ.ศ.2557 วันที่ 14 มิ.ย. โดยเหยื่อคราวนี้ เป็น ด.ญ.นิร์ไอนี เซ็งมะสู อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา โดยเด็กน้อย 4 ขวบถูกประตูเหล็กของโรงเรียนล้มลงมาทับ จนเสียชีวิต ขณะกำลังเดินเข้าโรงเรียน ต่อหน้าต่อตา ผู้ปกครองและทหารพรานที่ 47 ที่มาดูแลรักษาความปลอดภัย!
หลังจากเกิดเหตุ ทางผู้บริหารโรงเรียนอ้างว่า ประตูเหล็กดังกล่าวใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน และเกิดชำรุดมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยทางเจ้าหน้าที่โรงเรียนพยายามซ่อมแซมอยู่ และกำลังอยู่ระหว่างการของบประมาณกับทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท.ยะลา เขต2 มาทำการซ่อมแซมอยู่.......
และใช่ว่า เหตุการณ์แบบนี้ จะเกิดขึ้นเพียงในสถานศึกษาของไทย เท่านั้น ตามบ้านเรือนประชาชนคนธรรมดาแบบเราๆ ท่านๆ ก็พบกับเหตุโศกสลด แบบนี้ เช่นเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ........ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ทีมข่าวเฉพาะกิจ ร่วมกับศูนย์ข้อมูลหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ รวบรวมมาให้ทุกท่านได้พิจารณากันแล้ว ในวันนี้......
ประตูชำรุด ขึ้นสนิม ป้องกันได้
ประตูในบ้านเราส่วนใหญ่ หากมีระยะสูงประมาณ 2-3 เมตรขึ้นไป น้ำหนักประตูจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน
รวมซ้ำซาก! เหตุประตูเหล็กล้มทับคนดับ ในเมืองไทย
27 ม.ค. พ.ศ.2551 นายสมัย อยู่สุข อายุ 66 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ. ถูกประตูรั้วเลื่อนเหล็กของประตูโรงงาน ย่าน อ.คูคต จ.ปทุมธานี ล้มลงมาทับจนเสียชีวิตคาที่ ตำรวจ คาด ขณะผู้ตายกำลังเปิดเลื่อนเปิดประตู ประตูสลักยึดบานเลื่อนด้านบนเกิดหลุดออกจนทำให้ประตูทั้งบานล้มลงมาทับร่างผู้ตาย
22 ก.พ. พ.ศ.2552 นางทัศวรรณ เต็กตระกูล อายุ 36 ปี สังเวยชีวิต หลังถูกประตูรั้วบ้าน ย่าน เขตบางบอน กทม. ล้มลงมาทับ ขณะพยายามใช้แรงดันประตูเลื่อนที่ชำรุดมีอาการฝืด จนทำให้ล้อเลื่อนหลุดออกจากราง
2 ก.ย. พ.ศ.2555 ด.ช.โจนาธาน ชาแมน อีวาน อายุ 3 ขวบ ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ต้องจบชีวิตก่อนวัยอันควร หลังถูกประตูรั้วเหล็ก สูง 2 เมตร ยาว 4 เมตร ที่บ้าน ใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ล้มลงมาทับจนเสียชีวิตคาที่ ตำรวจคาด เกิดจากลูกรอกประตูหลุดจากรางเลื่อน จนเกิดเหตุสลด ขณะหนูน้อยพยายามเลื่อนประตูเปิดเพื่อรับมารดา ที่กำลังจะเข้าบ้าน
8 ก.ย. พ.ศ.2555 นาวาตรีหญิงวรรณวิไล จบกลศึก อายุ 79 ปี ถูกประตูรั้วเหล็กสูง 2 เมตร ล้มลงทับจนเสียชีวิตคาที่ ขณะกำลังเปิดประตู รับบุตรชาย ที่กำลังขับรถมาถึงบ้านย่านบางขุนเทียน ตำรวจคาด ขณะเกิดเหตุมีลมพัดกระโชกรุนแรง จนทำให้ประตูที่อยู่ในสภาพเก่าและทรุดโทรม เกิดหลุดกะทันหัน ขณะผู้ตายกำลังเลื่อนเปิดประตู
10 ก.ค. พ.ศ.2556 ขณะที่คนงาน โกดังแห่งหนึ่ง ใน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย กำลังเลื่อนประตูเหล็กสูง 2 เมตร ยาว 4 เมตร น้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัม จู่ๆ ประตูเจ้ากรรมเกิดหลุดออกจากล้อบังคับ จนหล่นลงทับเหยื่อ ที่คราวนี้ เป็น ด.ญ.ธราทิพย์ แดงจบวัยเพียง 8 ขวบ จนสลบคาที่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังถูกนำตัวส่ง รพ.เพียง 3 วัน
29 ต.ค. พ.ศ.2556 ประตูเหล็กยาว 4.50 เมตร สูง 2.20 เมตร น้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ล้มลงทับ นายคมสันต์ งามสวัสดิ์ คนงานในจังหวัดนครปฐม ที่กำลังใช้ชะแลงงัดลูกล้อให้ลอยขึ้น เพื่อทาจาระบีซ่อมประตูดังกล่าวที่ชำรุดมีอาการฝืด จนสิ้นใจตายคาที่ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ คาด เกิดจากประตูรั้วถูกออกแบบประกอบอย่างไม่มีความปลอดภัย ในขณะที่กำลังซ่อมแซม ประตูคงหลุดจากราง แล้วล้มลงทับผู้เสียชีวิต
การเลือกใช้ประตูเหล็กควรพิจารณาให้เหมาะกับสภาพของบ้านเป็นหลัก เช่น หากเป็นบ้านหลังขนาดใหญ่ หรือ โรงงาน ก็ควรเป็นแบบมิดชิดและมีขนาดใหญ่
15 มิ.ย. พ.ศ.2557 ด.ญ.ปิยะฉัตร เมืองแสน หรือ น้องปิ่น อายุแค่ 10 ขวบ ชาวบ้านย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สังเวยชีวิตให้กับฆาตกรประตูเหล็กบ้าน ขนาดกว้าง 3.50 เมตร สูง 2.50 เมตร ที่ล้มลงมาทับร่างจนเสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจที่เกิดเหตุพบประตูรั้วดังกล่าวหลุดจากรางเลื่อน จนหล่นลงมาทับผู้ตาย เหตุการณ์นี้ ห่างจากเหตุ ด.ญ.นิร์ไอนี เพียง 1 วันเท่านั้น
9 ธ.ค. พ.ศ.2557 จู่ ๆ ประตูเหล็กสูง 2.5 เมตร ยาว 4 เมตร น้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม ของวัดใหม่พิบูลย์ผล ใน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ก็ล้มครืนลงมาทับ สามเณรศุภวิชญ์ ใจบุญ อายุ 10 ขวบ ดับสยอง ขณะกำลังจะออกเดินไปเรียนหนังสือ ส่วนสาเหตุ ตร.คาดว่า น่าจะเกิดประตูเหล็กมรณะ ถูกสร้างอย่างไม่ได้มาตรฐาน มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ไม่เหมาะสมกับรางเหล็กที่มีขนาดเล็กเกินไป ทำให้ไม่สามารถรับน้ำหนักของประตูได้
5 มี.ค. พ.ศ.2558 เหยื่อคราวนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ รปภ. ย่านห้วยขวาง กทม. อายุ 50 ปี ทราบชื่อต่อมา คือ นายชวิศ ศรชัย ถูกประตูเหล็กกว้าง 5 เมตร สูง 2 เมตร น้ำหนักหลายตัน ล้มลงมาฟาดร่างจนเสียชีวิตคาที่ ขณะช่วยกันกับเพื่อน รปภ. อีกคน เลื่อนประตูเปิดให้ผู้พักอาศัยขับรถเข้าออกตามปกติ แต่ประตู ตกล่องเลื่อน จึงช่วยกันใช้ไม้งัดยกเพื่อดันให้ประตูกลับเข้าร่อง แต่เกิดพลาดจนประตูเหล็กล้มลงมาทับร่างดับสยอง
5 พ.ย. พ.ศ.2558 นายประมวล วงศ์สมบัติ อายุ 48 ปี ถูกประตูเหล็กหน้าบ้าน ใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี สูง 2.3 เมตร ยาว 4 เมตร ล้มลงทับเสียชีวิตคาที่ ตำรวจคาดเกิดจากประตูที่ถูกสร้างไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากสภาพของเหล็กนำล้อเลื่อนมีขนาดเล็กเกินไป จึงไม่สมดุลกับขนาดของประตูที่มีน้ำหนักมากกว่า
ทำไมจึงเกิดซ้ำๆ ซากๆ เหตุไฉน จึงเป็นเช่นนั้น อันตรายที่อยู่ใกล้ตัว และสามารถจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เรามีทางระวังป้องกันคนในครอบครัวของเราหรือไม่ แล้วเพราะอะไร ประตูเหล็กที่ดูเผินๆ ไม่น่ามีอันตรายอะไร เหตุใดจึงสามารถปลิดชีพคนได้อย่างง่ายดายนัก ทุกคำถาม ทีมข่าวเฉพาะกิจเรา มีคำตอบไว้ให้แล้ว........
ควรสังเกตเหล็กที่เป็นแนววิ่ง สำหรับนำมาใช้เป็นรางเลื่อนให้ดี หากเสื่อมคุณภาพ เวลามีการเลื่อนเปิด-ปิด ประตูมักจะหลุดจากรางเสมอๆ ควรรีบเปลี่ยนทันที
แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านการชันสูตรพลิกศพ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผู้ขอสงวนชื่อ ให้ความรู้กับทีมข่าวเฉพาะกิจ ว่า ให้นึกภาพง่ายๆ ของที่มีน้ำหนักมากๆ เช่น ประตูเหล็กบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่มีน้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไป โดยเฉพาะหากเป็นประตูอัลลอย ซึ่งอาจมีน้ำหนักมากกว่า 1 ตันขึ้นไป นั้น หากล้มลงมาทับมนุษย์ ซึ่งหากเป็นผู้ใหญ่ น้ำหนักเฉลี่ย จะอยู่ที่ 60-70 กิโลกรัม ส่วนเด็ก ก็อยู่ที่ประมาณ 15-20 กิโลกรัม มันก็คงไม่ต่างอะไรกับการถูกรถชนมากนัก
และส่วนใหญ่ กรณีที่ประตูเหล็กล้มทับ นั้น ขนาดของประตูที่มีขนาดสูงอย่างต่ำๆ ก็ 2 เมตรขึ้นไป เมื่อล้มลงมาทับมนุษย์ จุดแรกที่จะปะทะแน่นอน ก็คือส่วนที่เป็นศีรษะซึ่งถือเป็นอวัยวะที่สำคัญ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ ที่เป็นเด็ก นั้น บริเวณส่วนที่เป็นกะโหลกศีรษะซึ่งป้องกันสมองเอาไว้นั้นยังไม่แข็งแกร่งเต็มที่ เมื่อถูกของแข็งที่มีน้ำหนักมากขนาดนั้นฟาดเข้าใส่ กะโหลกและสมอง ได้รับความเสียหายแน่นอน และเมื่อสมองตาย บุคคลผู้นั้นก็จะเสียชีวิต
สัญญาณแรกที่จะปรากฏให้เห็นได้ชัดเลย คือ ประตูเลื่อนจะฝืด ซึ่งแปลว่า นั่นคือสัญญาณของการเสื่อมสภาพของประตูแล้ว
และอีกในกรณีหนึ่ง คือ ประตูรั้วเหล็กที่มีลวดลาย ซึ่งอาจจะมีส่วนที่มีความคมนั้น เมื่อล้มลงมาแล้ว เกิดไปแทงโดนบริเวณทรวงอกหรือช่องท้อง จนไปทำให้หัวใจ หรือ ปอด เกิดฉีกขาด ก็ทำให้เสียชีวิตในระยะเวลาเพียงสั้นๆ ได้
เพราะฉะนั้น สรุปง่ายๆ ว่า ส่วนที่เป็นอันตรายที่สุด ในกรณีนี้ ก็คือ ศีรษะ ต้นคอ และ บริเวณช่องอก หากประตูเกิดล้มไปถูก 3 จุด นี้ โอกาสรอดชีวิตก็เป็นไปได้ยาก
คำถามต่อไป ….. แล้วเราจะมีวิธีการดูแลป้องกัน หรือ สังเกตอย่างไร ว่าประตูรั้วที่สร้างความสวยงาม และป้องกันภัยให้บ้านของเรา กำลังจะกลายมาเป็นฆาตกรสังหารคนในครอบครัว
ทีมข่าวต่อสายไปยัง ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อให้ความรู้ในเรื่องนี้ ซึ่งหลังจาก ศ.ดร.สุชัชวีร์ ได้รับทราบถึงจุดประสงค์ในการทำสกู๊ปเรื่องนี้ คำพูดแรกที่หลุดจากปากของ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ก็คือ ทำไมคนไทยเรา ถึงได้มีคุณภาพชีวิตต้อยต่ำขนาดนี้?
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย
ส่วนใหญ่ ผู้รับเหมาชุ่ย ต้นเหตุประตูมรณะ พรากชีวิตคน
จากนั้น ศ.ดร.สุชัชวีร์ จึงได้เริ่มต้นการสนทนา ต่อไปว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในบ้านเราประตูเหล็กบ้านส่วนใหญ่จะมีสองรูปแบบ ประตูเลื่อน และประตูบานพับ แต่ส่วนใหญ่ประตูที่สังหารชีวิตคนไทยจำนวนมากก็คือ แบบประตูเลื่อน! โดยมีสาเหตุที่พบส่วนใหญ่ก็คือ บรรดาผู้รับเหมาที่เห็นแก่ได้บางราย ใช้เหล็กเส้นเล็กและคุณภาพต่ำ มาทำรางเลื่อนประตู ซึ่งเมื่อใช้ไปนานๆ ก็ประตูเหล็กก็จะเลื่อนหลุดจากรางเลื่อนบ่อยๆ หรือ เมื่อถูกรถเหยียบผ่านเข้า-ออก ประตูบ้านทุกวัน ก็จะเสื่อมคุณภาพเร็ว จนหลุดจากรางได้ง่ายๆ
เพราะฉะนั้น วิธีการที่ง่ายแสนง่าย ที่จะป้องกันเรื่องนี้ ไม่ให้เกิดขึ้นอีกก็คือ การทำประตูรั้วเหล็กแบบเลื่อน คือ ข้อที่ 1 ควรมีระยะเผื่อเพิ่ม จากขนาดของประตูที่แท้จริงประมาณ 20-30 เซนติเมตร และมีการทำประกับล็อกประตูเอาไว้ เพราะหากมีอุบัติเหตุประตูเกิดหลุดจากราง ส่วนที่เป็นระยะเผื่อก็จะติดอยู่กับประกับล็อกประตู เพราะฉะนั้น โอกาสที่ประตูจะล้มลงมาจนทำให้เกิดเรื่องสลด จะแทบไม่มี!
ข้อที่ 2 สำหรับการป้องกัน ก็คือ ควรสังเกตเหล็กที่เป็นแนววิ่ง สำหรับนำมาใช้เป็นรางเลื่อนให้ดี หากเสื่อมคุณภาพ หรือ มีการใช้เหล็กเส้นขนาดเล็กไม่ได้ตามมาตรฐาน หรือ เหมาะสมกับขนาดของประตู เวลามีการเลื่อนเปิด-ปิด ประตูมักจะหลุดจากรางเสมอ ๆ ควรรีบเปลี่ยนทันที อย่าปล่อยทิ้งเอาไว้เด็ดขาด และที่สำคัญเหล็กที่นำมาใช้ ควรเป็นเหล็กกล้าขนาดใหญ่ มีความคงทนสูง ขนาดต้องเหมาะสมกับขนาดและน้ำหนักของประตู และต้องไม่มีข้อต่อเด็ดขาด
ขนาดแต่ละล้อต้องเหมาะสมกับขนาดของประตูที่จะใช้ เพื่อความคงทนและรับน้ำหนักของประตูที่เพิ่มขึ้น ไม่ให้ล้มลงมาง่ายๆ
ข้อที่ 3 หากเลือกใช้ประตูเหล็กขนาดใหญ่ ต้องคำนึงในใจเสมอว่า ยิ่งมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ น้ำหนักของประตูก็จะยิ่งมากขึ้นๆ เพราะฉะนั้น อีกหนึ่งวิธีการง่ายๆ ก็คือ ควรมีล้อเลื่อนประตูให้มากขึ้น และขนาดแต่ละล้อต้องเหมาะสมกับขนาดของประตูที่จะใช้ เพื่อความคงทนและรับน้ำหนักของประตูที่เพิ่มขึ้น ไม่ให้ล้มลงมาง่าย ๆ
สำหรับน้ำหนักเฉลี่ยของประตูเหล็ก ที่นิยมนำมาใช้ทำประตูรั้วในประเทศของเรา นั้น ส่วนใหญ่ เท่าที่ทราบ หากมีระยะสูงประมาณ 2-3 เมตรขึ้นไป น้ำหนักประตูจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน ส่วนน้ำหนักเฉลี่ยน้อยที่สุด ตามบ้านเรือน ทั่วๆไป ที่มีราคาไม่แพงมากนัก จะอยู่ที่ประมาณ 300-400 กิโลกรัม เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า น้ำหนักขนาดนี้ หากล้มลงทับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ หรือ เด็ก ก็ล้วนแล้วแต่มีอันตราย ทั้งสิ้น
ง่ายๆ เลย ต้องคำนึงเสมอว่า ประตูเหล็กบ้านเรา ต้องตากแดดตากฝนตลอดเวลา เพราะฉะนั้น โอกาสจะเป็นสนิมก็ย่อมง่าย เพราะฉะนั้น สัญญาณแรกที่จะปรากฏให้เห็นได้ชัดเลย ก็คือ ประตูเลื่อนจะฝืด ซึ่งแปลว่า นั่นคือสัญญาณของการเสื่อมสภาพของประตูแล้ว เพราะฉะนั้น จึงต้องหมั่นดูแลบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนลูกปืนล้อ และสังเกตเหล็กที่เป็นแนววิ่งให้ดีๆ
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
หากเป็นเช่นนั้น ควรมีวิธีการเลือกซื้อประตูเหล็ก อย่างไร ถึงจะปลอดภัยและเหมาะสมกับบ้านของเรา
นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า ควรพิจารณาให้เหมาะกับสภาพของบ้านเป็นหลัก เช่น หากเป็นบ้านหลังขนาดใหญ่ หรือ โรงงาน ก็ควรเป็นแบบมิดชิดและมีขนาดใหญ่ เพื่อความเป็นส่วนตัว แต่หากเป็นบ้านแบบทาวน์เฮาส์ ก็ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่มากนัก โดยอาจเป็นแบบเล็กและบาง ซึ่งก็จะเหมาะสมกับสภาพของบ้านที่เราอยู่อาศัย ได้ไม่ยาก
สุดท้าย ศ.ดร.สุวัชชวี ขอบอกผ่านทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ไปถึงบรรดาผู้รับเหมาและบรรดาเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ ว่า อยากให้คำนึงถึงชีวิตของประชาชนเป็นหลัก อย่ามองชีวิตคนไทยว่าต้อยต่ำ จะทำอะไรก็ได้ แบบไทยๆ บางเรื่องแม้อาจต้องเพิ่มต้นทุนขึ้นนิดหน่อย เช่น เรื่องความปลอดภัยในการสร้างประตูรั้วเหล็กนี้ ก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำ มองกว่ามองเห็นแค่เรื่องผลกำไร-ขาดทุน มากกว่าคุณภาพชีวิตของคนในชาติ....
Microsoft เผยผลสำรวจ 10 อาชีพในอนาคตที่ผู้บริหารกลัวขาดคนในยุค AI
Bitkub HODL Day: สร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างสร้างสรรค์ ผ่านกีฬาสีที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับ “บิทคับ กรุ๊ป”
Orchidjobs บริการสรรหาพนักงานครบวงจร
สภาพัฒน์ฯ เผยผลสำรวจผู้บริหาร 74% ไม่จ้างพนักงานไร้ทักษะ AI ปัจจุบันคนไทยว่างงาน-หนี้เกินตัว ใช้โซเชียลกู้ยืมนอกระบบ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
