รู้ไว้ไม่พลาด! ไขข้อข้องใจ เที่ยว-ช็อป สิ้นปี ลดหย่อนภาษี 3 หมื่นบาท

  • 11 May 2020
  • 1100
หางาน,สมัครงาน,งาน,รู้ไว้ไม่พลาด! ไขข้อข้องใจ เที่ยว-ช็อป สิ้นปี ลดหย่อนภาษี 3 หมื่นบาท

เรียกว่าเป็นข่าวดีสำหรับนักช็อป!! หลังรัฐบาลประกาศลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อเป็นของขวัญส่งท้ายปี 58 นอกจากเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ได้ลดภาษีจากการซื้อสินค้าแล้ว ในเดือนเดียวกัน ยังมีมาตรการภาษีส่งเสริมเที่ยวทั่วไทยที่ออกมาก่อนหน้าอีกด้วย เรียกว่า ภายในเดือนเดียว ลดหย่อนภาษีรวมแล้วถึง 30,000 บาท

ทั้งนี้ หลายคนคงเริ่มสงสัยว่ามาตรการดังกล่าวมีเงื่อนไขอย่างไร? รวมทั้งเจ้าใบกำกับภาษีที่ว่านั้นเป็นแบบไหน? "ไทยรัฐออนไลน์" มีคำตอบ ...

ต้องท้าวความกันเล็กน้อยว่า มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ของขวัญปีใหม่กับประชาชน โดยการออกมาตรการนี้เป็นเหมือนการเพิ่มแรงจูงใจให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในเดือนสุดท้ายของปี ซึ่งนับเป็นเดือนแห่งเทศกาล ที่ประชาชนส่วนใหญ่ล้วนมีความต้องการซื้อสินค้า และบริการต่างๆ เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว

 

กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยช่วงปลายปี

โดยทางภาครัฐฯ ได้เริ่มเดินหมากแรกด้วย "มาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ" ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16-31 ธ.ค. ซึ่งเป็นกรณีเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าโรงแรมภายในประเทศ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท

ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการยื่นลดหย่อนภาษีตามมาตรการนี้จะต้องเป็นผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล โดยผู้ยื่นขอลดหย่อนจะต้องมีใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษีที่ระบุ ชื่อ นามสกุล ของผู้มีเงินได้ที่จะใช้สิทธิหักลดหย่อน จำนวนเงิน และวัน เดือน ปี ของเอกสารใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษีที่ชัดเจน

แต่ในกรณี ที่จองผ่านคนกลางหรือเอเจนซี่อย่าง "Agoda" บิลที่ออกจากคนกลางซึ่งไม่เข้าข่ายผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตข้างต้น ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานลดหย่อนภาษีได้

ขณะที่ผู้ออกใบเสร็จได้จะต้องเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ หรือ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมาย ซึ่งโรงแรมที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ทางกรมสรรพากรได้จัดทำลิสต์รายชื่อเอาไว้ให้ตรวจเช็กได้แล้ว บนเว็บไซต์ rd.go.th

ทั้งนี้ หากสามีหรือภริยา มีเงินได้เพียงฝ่ายเดียว ให้ใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเฉพาะแก่สามีหรือภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ แต่หากสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ และในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีระบุผู้จ่ายเงินเป็นทั้งสามีและภริยา ให้ใช้หลักเกณฑ์ดังนี้

(ก) ถ้าสามีภริยาต่างฝ่ายต่างแยกยื่นแบบ ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท

(ข) ถ้าสามีภริยาแยกยื่นแบบ เฉพาะเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นเงินได้ประเภทเงินเดือน ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนภาษีของตนเองได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท

(ค) ถ้าสามีภริยาตกลงยื่นแบบและเสียภาษีรวมกัน ให้หักลดหย่อนภาษีได้ทั้งสองฝ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท

สำหรับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวนั้น นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า สามารถช่วยกระตุ้นในส่วนการท่องเที่ยวได้จริง นักท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ก็อยากให้มีการประชาสัมพันธ์ถึงมาตรการภาษีให้มากกว่าเดิม เนื่องจากยังมีประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ค่อยเข้าใจในรายละเอียดมากนัก

 

ซื้อสินค้า-บริการ ไม่เกิน 15,000 บาท

ล่าสุด นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออก "มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา" สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค้าบริการ ในระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค. 58 จากผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท โดยในคำว่า "ค่าซื้อสินค้าและบริการ" ไม่ได้นับรวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ น้ำมัน และก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ และผู้ซื้อจะต้องมีหลักฐานสำหรับการลดหย่อนภาษี เป็น "ใบกำกับภาษี" ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร เท่านั้น!

คุณสมบัติใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบตาม ม.86/4 แห่ง ป.รัษฎากร 

1. คำว่า "ใบกำกับภาษี" ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
2. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี และในกรณีที่ตัวแทนเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 86 วรรคสี่ หรือมาตรา 86/2 หรือผู้ทอดตลาดเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 86/3 ให้ระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของตัวแทนนั้นด้วย
3. ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
4. หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม ถ้ามี
5. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
6. จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าและหรือของบริการให้ชัดแจ้ง
7. วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
8. ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด

ทั้งนี้ ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีที่ลงวันที่ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2558 ให้นำไปใช้ลดหย่อนของปีภาษี 2558 ที่เป็นการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559

ดังนั้น เมื่อมาตรการดังกล่าวถูกนำไปรวมกับ "มาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ" จึงเท่ากับว่าในเดือนสุดท้ายของปี กระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว 2 มาตรการ จำนวน 30,000 บาท ซึ่งแน่นอนว่ามาตรการแบบนี้ ก็มีเป้าหมายสำคัญเป็นการช่วยส่งการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

 

เที่ยวจับจ่ายใช้สอยกันอย่างมีความสุข และอย่าลืม! ขอใบเสร็จนำไปลดหย่อนภาษีนะคะ

เมื่อทราบดังนี้แล้ว ผู้อ่านทุกท่านอย่าลืมขอใบเสร็จ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี รวมทั้งปลายปีนี้ ไทยรัฐออนไลน์ ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่าน ท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอยกันอย่างมีความสุข ส่วนมาตรการดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้หรือไม่ ก็คงต้องรอดูกันต่อไป แต่เชื่อว่าในฐานะประชาชนจะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ไม่มากก็น้อย.

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top