บันทึกชะนีฟรีแลนซ์ : เมื่อชะนีเป็นฟรีแลนซ์ และ สิ่งที่คนอยากเป็นฟรีแลนซ์ควรทราบ

  • 11 May 2020
  • 1838
หางาน,สมัครงาน,งาน,บันทึกชะนีฟรีแลนซ์ : เมื่อชะนีเป็นฟรีแลนซ์ และ สิ่งที่คนอยากเป็นฟรีแลนซ์ควรทราบ

สมาชิกพันทิพ หมายเลข 2850889 ได้แบ่งปันประสบการณ์การทำงานเรื่องบันทึกชะนีฟรีแลนซ์ : เมื่อชะนีเป็นฟรีแลนซ์ และ สิ่งที่คนอยากเป็นฟรีแลนซ์ควรทราบ 

 

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน ห่างหายจากการตั้งกระทู้ไปแสนนานมาก เพราะงานมันรัดตัวจริงๆ ค่ะ วันนี้ชาก็ได้ฤกษ์ดีในการลงกระทู้ประจวบเหมาะกับการเป็นฟรีแลนซ์มาได้สามปีกว่าๆ คงจะพอแชร์อะไรที่เป็นประโยชน์ให้กับทุกคนได้บ้างแหละเนาะ

        ซึ่งในวันนี้ขอมาเสนอ...เอ๋อ เอ๋อ (จะเอ็คโค่ทำไม)

 


        เมื่อประมาณเกือบห้าปีก่อนชาเป็นบัณฑิตจบการศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์ ปัญหาที่ประสบอาจเหมือนกับใครหลายคนที่ตอนเรียนมันก็สนุกอยู่หรอก แต่พอเรียนจบนี่สิ จะเรียนต่อโทก็ไม่ได้อยากไปสายอาจารย์หรือนักวิจัย จะหางานก็ไม่ชอบงานแล็บซ้ำๆ งานที่อยากทำมาก็เลิกอยากตอนได้ไปฝึกงาน  เลยเบนเข็มไปที่สายบริหาร คืองานผู้ช่วยเลขาฯ ในบริษัทใหญ่ หนึ่งปี เกิดอยากฝึกภาษาออกมาทำงานเซลล์ซัพพอร์ตที่บริษัทสตาร์ทอัพของชาวต่างชาติอีกครึ่งปี งานก็โอเคถือว่าได้เรียนรู้อะไรมากมายทีเดียว ถ้าย้อนเวลากลับไปก็จะทำเหมือนเดิมนี่แหละ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า

        ...มันไม่ใช่อ่ะกิฟต์ (กิฟต์เป็นใคร)

    ปีครึ่งในการทำงานผ่านมา ได้มานั่งทบทวนตัวเองในวันที่รู้สึกเบื่อ การมีงานแล้วเงินเดือนที่โอเค มันดีมากนะ แต่เรารู้สึกไม่สนุกเลย เลยพยายามหาทางออกให้ตัวเอง

      ...แต่ไม่มีคำว่าฟรีแลนซ์ในหัวนะ

    เราทบทวนว่าเราทำอะไรได้ดี การขุดจึงเริ่มขึ้น ลากไปถึงชมรม และสิ่งที่เคยใช้หารายได้ตอนเรียน พบว่า เฮ้ย เราชอบแปลวารสารนะ เลยคิดแบบมั่นหน้าว่าเราจะเป็นนักแปล ซึ่งมั่นหน้าเกินไป คะแนนภาษาอังกฤษที่เยอะตอนเรียน หรือ คะแนน toeic ที่โอเค ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นนักแปลที่ดีได้  นี่เคยมั่นหน้าถึงกับแปลเพลงจากไทยเป็นอังกฤษมาลงพันทิป ผิดบานเลย ต้องขอขอบคุณคอมเมนท์ในวันนั้นที่ทำให้เราไม่โดดหน้าผาตาย ทุกวันนี้เรียนเพิ่มหลายคอร์สเน้นรับงานแปลอังกฤษไทย และมีการกรองรับงานที่มั่นใจว่าทำได้ดี หรือแปลฟรีเมื่ออยากฝึก (งานยากๆ ใช้ส่งงานให้พี่ที่เรียนอยู่อังกฤษแทน ชัวร์กว่า) อีกงานที่เราอยากทำคือเรื่องการเขียน

    เราจึงเริ่มต้นเปิดเพจ  และเอาข้อมูลการติดต่อไปติดตามมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้ที่อยู่ และหางานเกี่ยวกับการเขียน (เพราะว่าชอบอ่านและเขียนอะไรก๊อกๆ แก๊กๆ มานาน) เมื่อได้งานที่สร้างรายได้เกินเดือนล่ะหมื่นบาท จึงเริ่มมีความคิดจะลาออก แต่เจ้านายฝรั่งเค้าใจดี ให้งานเขียนบล็อกของบริษัทแบบฟรีแลนซ์ที่เข้าออฟฟิศเดือนละครั้ง รายได้ประมาณเดือนละ 6000 บาทนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการเป็นฟรีแลนซ์ของเรา

    จากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านมาเกือบสี่ปี เรายังอยู่รอดปลอดภัย และสรุปภาพรวมการทำงานจากประสบการณ์เราได้ว่า

        1. ค่อยๆ แหย่ขาออกมาจะดีกว่า : สำหรับผู้ที่มี comfort zone แล้วอยากทำงานอิสระคุณควรหางานรองรับคุณ ไม่ใช่นึกอยากจะออกก็ออกมา จำไว้ว่าทุกวันคุณต้องใช้เงิน สำหรับชาเกณฑ์ที่วัดว่าเราพร้อมแล้วคือการมีเงินเก็บเท่ากับเงินเดือนสามเดือน และ รายได้จากงาน(ที่ตอนนั้นเป็นงานเสริมทำตอนเลิกงาน) จะต้องพอประมาณ สองอย่างนี้ต้องมาพร้อมกันเพราะคุณไม่รู้หรอกว่ารายได้ของคุณในเดือนต่อไปจะเป็นอย่างไร เงินสำรองจึงควรมี ประกันสังคมก็ต้องจ่ายต่อ (เดี๋ยวจะมาเขียนละเอียดอีกครั้ง) ถ้ามีไม่ครบอย่าเพิ่งออกมา
        
        2. ขวนขวายหางาน : อาชีพอิสระที่แสนจะโนเนมอย่างชารอดมาถึงวันนี้เพราะขวนขวาย ตั้งแต่แปะข้อมูลติดต่อตามบอร์ดมหาวิทยาลัย เปิดเพจ หางานในอินเตอร์เน็ต เก็บคอนเน็คชั่นของการทำงานให้ดีๆ รักษาความสัมพันธ์เอาไว้เพราะบางทีงานอาจมาจากตรงนั้น อย่าดูถูกเรื่องประกาศในอินเตอร์เน็ตเพราะชาเคยได้งานพ็อกเก็ตบุคจากที่หนึ่ง แม้ค่าจ้างไม่ได้แพงมากแต่ถือว่าเป็นการเริ่มต้น ต่อยอดไปงานอื่นๆ ของบริษัทนี้

         3. ต้องหาความรู้ : ข้อนี้สำคัญมาก อย่างที่บอกว่าเริ่มแรกเข้าขั้นกากทีเดียว เราต้องหาความรู้ที่จะพัฒนางานของเราให้ดีขึ้นไป ไม่ถนัดอะไรก็หามาอุด ไม่มีงบก็อ่านเองดูคอร์สฟรี พอเริ่มมีรายได้เสียตังค์ก็ควรยอมถ้าคุ้ม คอร์สเสียเงินอันแรกของชาคือคอร์สนักแปลนานมี ซึ่งถื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนและต่อยอดมาได้เรื่อยๆ (แม้จะไม่ได้มีแปลหนังสือเป็นเล่ม แต่ก็มีงานเข้าตลอด)

          4. วินัยต้องจัดเต็ม : เรื่องนี้สำคัญมาก เมื่อเรารับงานมาแล้ว รับปากอะไรลูกค้าต้องตามนั้น เวลาต้องเป็นเวลา ส่งงานต้องตรงเวลา ดังนั้นการจัดการจึงสำคัญ อย่าคิดว่าไม่ต้องแต่งตัวไปทำงานแล้วจะชิลล์นะ สำหรับเรานี่ยิ่งกว่าตอนทำงานประจำอีก

          5. พยายามเป็นเป็ด : การจะทำฟรีแลนซ์คุณต้องเป็นเป็ดค่ะ ตอนแรกชาเป็นนักแปล ซักพักต้องเรียบเรียงด้วย ต่อมาลูกค้าอยากได้บทความ ต่อมาอีกจะเอาบทความที่ถูกหลัก SEO ซักพักถามลงโค๊ดเป็นไหม มีรูปประกอบของตัวเองเปล่า บลาๆๆ สรุปก็ต้องเพิ่มสกิลแหละ หรือไม่ก็ต้องเก่งในด้านของตัวเองให้สุด แต่ชาขอเป็นเป็ดดีกว่า

         6. อีโก้อย่ามาก: อันนี้ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไม่มั่นใจในตัวเองนะ แต่ชาหมายความถึงการฟังคอมเมนท์ของคนอื่นบ้าง น้อยคนที่จะเก่งตั้งแต่เริ่มต้น อย่ามั่นใจมั่นหน้าเกินไปเพราะพลาดมาอาจจะล้มแรง หลายคำแนะนำจะเป็นเบาะกันกระแทกให้เรา จึงควรเลือกส่วนที่เหมาะมาปรับใช้

          7.รักษาสุขภาพร่างกาย : ชามีโรคออฟฟิศซินโดรมตำแหน่งคอติดมาจากออฟฟิศที่แรก เป็นเหตุให้ทรมานมาก แต่มันแก้ไขด้วยการออกกำลังกายแหละ ซึ่งถ้าไม่ออกนานๆ มันก็กลับมา เพราะงั้นเราต้องจัดการเวลาดีๆ อย่าหักโหมจนเกินไป เพราะสุขภาพร่างกายบางทีมันไปแล้วไปเลย อย่าลืมฟังเสียงเตือนของร่างกาย

           8. เก็บเงินรัวๆ : นั่นแหละค่ะด้วยความที่รายได้ช่างไม่แน่นอน แล้วไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุอะไร นอกจากส่งประกันชีวิตชาก็เก็บเงินไว้ประมาณว่าให้อยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานประมาณนึง กลัวอะไรไม่เท่ากลัวเงินหมด

         ก็ประมาณนี้แหละสำหรับการเป็นฟรีแลนซ์สไตล์ของชานะ เห็นน้องๆ หลายคนที่อยากเป็นฟรีแลนซ์ทันทีหลังจบงาน ก็อยากให้ลองถามตัวเองดูว่าในแปดข้อนี้เรามีอะไรบ้าง การเป็นฟรีแลนซ์ต้องมีทั้งความสามารถในการทำงาน และผู้จ้างงาน หากยังไม่แน่ใจลองเข้าทำงานหาประสบการณ์ก่อนก็ไม่เลวนะ แต่ถ้ามั่นใจแล้ว อีกทั้งมีคอนเน็คชั่นตั้งแต่ตอนเรียนก็มีมีลุ้น
    ยังไงจะทยอยลงเรื่องต่างๆ ทั้งสาระและไร้สาระ สำหรับวันนี้ลาก่อน
    ไปทำงานละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล. แก้ไขข้อความตามคำแนะนำ สมาชิกหมายเลข 2850889
แก้ไขข้อความเมื่อ 2 มีนาคม เวลา 11:47 น.

อ่านเพิ่มเติม https://pantip.com/topic/36162392 

 

ขอบคุณที่มา pantip.com

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top