บินไทยห้าม โหลด‘ลิเธียม’

  • 11 พ.ค. 2563
  • 1138
หางาน,สมัครงาน,งาน,บินไทยห้าม โหลด‘ลิเธียม’

สนามบินสุวรรณภูมิ-การบินไทย ออกมาตรการคุมเข้ม เพิ่ม “แบตเตอรี่ลิเธียม”เป็นวัตถุอันตราย รวมถึงแบตเตอรี่สำรองสำหรับมือถือ “พาวเวอร์แบงก์” ห้ามโหลดใต้ท้องเครื่อง และให้พกขึ้นเครื่องได้ความจุไม่เกิน 32,000 mAh เท่านั้น เหตุแบตเตอรี่ลิเธียมเกิดความร้อนแล้วไฟปะทุ ห่วงไฟไหม้ลุกลามทำอันตรายต่อเครื่องบิน หลังเคยเกิดเหตุมาแล้วกับสายการบินต่างชาติ

มาตรการคุมเข้มห้ามนำแบตเตอรี่สำรอง โทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่องบินในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ว่า สนามบินสุวรรณภูมิ มีข้อกำหนดในการห้ามผู้โดยสารนำวัตถุอันตรายติดตัวหรือนำใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้เครื่องบิน ตามมาตรฐานความปลอดภัยของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือไออาตา อย่างเคร่งครัด รวมถึงแบตเตอรี่สำรอง ก็มีข้อกำหนดในการห้ามโหลดและห้ามนำขึ้นเครื่องบินด้วย เพื่อสร้างความปลอดภัยในการเดินทางแก่ผู้โดยสารสูงสุด

ด้านนายสมรรถ พุ่มอ่อน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารภาวะฉุกเฉินและวิกฤติ บริษัทการบินไทย กล่าวว่า การบินไทยกำหนดมาตรการการพกพาแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบิน เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเหตุสายการบินต่างชาติเกิดอุบัติเหตุแบตเตอรี่สำรองลุกไหม้ จึงต้องออกมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร เนื่องจากแบตเตอรี่สำรอง ถือเป็นวัตถุอันตราย เพราะเมื่อแบตเตอรี่ลิเธียมเกิดความร้อนสูง อาจนำไปสู่การติดไฟได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกฎมาตรฐานความปลอดภัยของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) เกี่ยวกับการนำแบตเตอรี่สำรอง หรือพาวเวอร์ แบงก์ ขึ้นไปบนเครื่องบิน โดยมีรายละเอียดดังนี้ ห้ามนำแบตเตอรี่สำรองใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้เครื่องในทุกกรณี แต่ให้สามารถนำใส่กระเป๋าติดตัวถือขึ้นเครื่องบินได้ ในจำนวนและปริมาณที่จำกัด ได้แก่ แบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟฟ้าน้อยกว่า 20,000 mAh หรือน้อยกว่า 100 Wh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่มีการจำกัดจำนวน ส่วนที่มีความจุไฟฟ้า 20,000-32,000 mAh หรือ 100-160 Wh นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกินคนละ 2 ก้อน แต่หากมีขนาดความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh หรือ 160 Wh ห้ามนำขึ้นเครื่องในทุกกรณี

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2551 กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ได้ประกาศให้แบตเตอรี่ลิเธียมเป็นวัตถุอันตราย หลังจากมีรายงานแบตเตอรี่สำรองชนิดดังกล่าวที่ทำงานจนเกิดความร้อนสูง อาจนำไปสู่การติดไฟและระเบิดได้ จึงมีการตรากฎขึ้นใหม่เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะเกิดการช็อต และติดไฟขณะอยู่บนเครื่องบิน ซึ่งจากการทดสอบโดยสำนักการบินแห่งชาติ แสดงให้เห็นว่าระบบการควบคุมเพลิงในส่วนบรรทุกสัมภาระบนเครื่องบินไม่สามารถระงับไฟที่เกิดจากการระเบิดของแบตเตอรี่ลิเธียมแบบชาร์จไฟที่อยู่รวมกันเป็นปริมาณมากๆได้

เพราะแม้ว่าจะมีประกายไฟเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้แบตเตอรี่ลิเธียมไฟลุก ที่สำคัญพลาสติกที่เคลือบอยู่ภายนอกยังสามารถหลอมละลายได้ด้วย ซึ่งทำให้ลุกลามไปยังแบตเตอรี่ที่เก็บไว้รวมกันก่อให้เกิดไฟไหม้เป็นวงกว้าง แต่หากเป็นสถานการณ์ที่เกิดกับแบตเตอรี่ที่เก็บไว้ในกระเป๋าที่ผู้โดยสารนำติดตัวขึ้นเครื่อง ทางลูกเรือ และผู้โดยสารจะสังเกตและเข้าระงับเหตุได้ทัน

 

ขอขอบคุณข่าว และภาพข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top