5 Senses ที่ HR Professional ห้ามหยุดพัฒนา

  • 24 Jan 2025
  • 3861
หางาน,สมัครงาน,งาน,5 Senses ที่ HR Professional ห้ามหยุดพัฒนา

 

สมัยที่ยังทำงานประจำกินเงินเดือนขององค์กรอยู่ สิ่งหนึ่งที่เจ้านายท่านหนึ่งที่ผมเคารพมาก เล่าให้ฟังและอยากให้ผมในฐานะที่ดูแลงานพัฒนาองค์กรได้สร้างเสริมให้เกิดขึ้นแก่บรรดาพนักงานรุ่นเก่าและใหม่ที่ส่วนมากแล้วยังอยู่ใน Gen X และ Gen Y  ในสภาวะการแข่งขันอย่างสูงยิ่งทางธุรกิจเช่นที่ผ่านมา และคาดแนวโน้มว่าจะยังไม่ลดดีกรีความเข้มข้นลงในอนาคตอันใกล้ คือการที่พนักงานจะมีสำนึกของความเร่งด่วน (Sense of Urgency) กล่าวคือ การมองให้ออกว่าองค์กรในปัจจุบันจะต้องฝ่าฟันขวากหนามของการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งที่เกิดจากผลกระทบภายในองค์กรเองและภาวะธุรกิจภายนอก หากเรามัวนั่งชื่นชมความสำเร็จที่เคยผ่านมาแล้วไม่ปรับตัวให้รวดเร็วตอบสนองรองรับให้ทันท่วงที ก็คงจะไม่เข้าที 

ความรู้ที่เจ้านายถ่ายทอดมา ช่วยให้ผมหันไปขบคิดว่า แล้วในมุมของคนทำงาน HR บ้างล่ะ Sense ในเรื่องใดที่เราน่าจะต้องมีเพื่อให้เราตอบสนองโจทย์ทางธุรกิจที่ยากขึ้นทุกวันได้ อย่างน้อยก็เอาไว้ใช้เป็นกรอบของการพัฒนาตัวเองให้ทำงานในแนวทางการเป็น Strategic Partner ให้กับ Line Manager ทั้งหลายได้เต็มเปี่ยมประสิทธิภาพมากขึ้น  

ผมขอแชร์ว่า คนทำงาน HR ที่มุ่งหน้าสู่ความเป็นมืออาชีพ นอกจากจะต้องพกความรู้และทักษะในแต่ละสาขางาน HR ไว้เต็มกระเป๋าแล้ว ยังคงต้องมี Sense หรือสำนึกอะไรหลายอย่าง ดังต่อไปนี้ล่ะครับ  

 

1) Sense of Incoming Change  

สำนึกว่าการทำงานนั้นประสบกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดนิ่งเสมอ เพื่อที่จะทำงาน HR ของเราให้ได้ในเชิงกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์กับธุรกิจ และแผนธุรกิจที่ไม่ว่าจะในวันนี้และภายหน้า จำเป็นอย่างยิ่งที่ HR จะต้องทำความเข้าใจธุรกิจ ด้วยการมองธุรกิจขององค์กรเราด้วยสายตาของผู้ประกอบการมากกว่าที่จะมองในฐานะคนทำงาน HR ตามหน้าที่งานคนหนึ่ง

การมองเช่นนี้ จะช่วยให้เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทั้งจากภายนอกและภายในที่เข้ามากระทบต่อธุรกิจได้กว้างไปกว่าเรื่องภายในที่เกี่ยวกับการเพิ่มผลผลิตจากพนักงาน อย่างความเปลี่ยนแปลงจากภายนอก โดยเฉพาะที่เป็นผลกระทบในทางลบต่องาน HR ขององค์กร เป็นต้นว่า โครงสร้างประชากรของไทยที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย จะส่งผลให้แรงงานวัยหนุ่มสาวเป็นที่ต้องการตัวอย่างมากในตลาดแรงงาน หรือการที่องค์กรประกอบไปด้วยคนหลายช่วงวัย (Generation) ทำงานด้วยกัน ก็ย่อมทำให้ HR ต้องเสริมสร้างค่านิยมเรื่อง Diversity และ Multi-generation Working Environment หรือการทำงานที่ต้องเข้าใจความต่างของความคิดจากคนแต่ละช่วงวัยมากขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ HR จะต้องขบคิดให้ละเอียดละออ 

 

2) Sense of Humanness  

HR เราทำงานกับคนที่มีความต้องการอันหลากหลายซึ่งยากจะคาดเดา มีอารมณ์ความรู้สึกและคิดได้ทุกเรื่องทุกทาง อย่างที่บางทีก็คาดไม่ถึง Sense เช่นนี้จะเตือนให้เราเข้าใจว่า เมื่อต้องทำงานกับคนแล้ว จะมานั่งเบื่อหน่ายกับการที่จะชี้แจง การพบปะ การโดนตำหนิหรือไม่พอใจ เพราะไม่เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับพนักงานก็คงจะไม่เหมาะกับอาชีพนี้ ทั้งที่หลายครั้งเราทำดีแทบจะทุกกระบวนการ พอคิดอ่านไม่ตรงกับหน่วยงาน Line ก็ถึงกับไม่พอใจและเอ็ดตะโร HR กันจนเข้าหน้าไม่ติด

นอกจากนี้ Sense ของความเป็นคนยังบอกว่า ใครก็ตามที่หันมาประกอบอาชีพ HR แล้ว จะต้องพร้อมกับการให้บริการและการช่วยเหลือเพื่อนพนักงานในความยุ่งยากลำบาก พร้อมที่จะส่งเสริมให้พนักงานน้อยใหญ่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพของเขา เมื่อมีมุมมองเช่นนี้ เราจะรู้สึกสนุกที่จะขวนขวายหาเครื่องมือ เทคนิคและแนวปฏิบัติใหม่ ๆ มาปรับใช้ให้งาน HR ตอบสนองได้กับสารพัดเรื่องที่ใครต่างก็คาดหวังให้ HR ทำงานให้สำเร็จผลดี  

 

3) Sense of People Handling  

งานของ HR ทั้งหลายไม่ได้ทำกับหุ่นยนต์หรือเครื่องจักรไร้หัวใจเช่นที่ผมเปรยไปข้างต้น แต่ล้วนเกี่ยวข้องกับปัญหาการทำงานร่วมกันของคน ที่ยากจะหาคำตอบแบบคณิตศาสตร์ได้ลงตัวทุกกรณี ด้วยเพราะมักมีคำว่า “เหมาะสม” ประกบอยู่เสมอ

โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารและประสานงานให้เกิดประสิทธิผลนั้น นับว่าเป็นหนึ่งในเรื่องยากของการรับมือคนทำงานเลยทีเดียว ที่ว่าเช่นนี้เพราะไม่มีใครหรอกครับที่จะเชื่อเราทุกถ้อยความคิด ซึ่งว่าไปแล้ว แต่ละคนก็จะมีแบบแผนความคิดที่ตั้งอยู่บนประสบการณ์ มุมมองและความเคยชินเสมอ เรื่องบางเรื่องทั้งที่ง่ายแต่กลายเป็นยากเพราะไม่ยอมกัน พอเกิดความขัดแย้งขึ้น ก็ไม่พ้นที่ HR จะต้องอาสาไปรับมือเพื่อมิให้เรื่องบานปลายไปกันใหญ่ 

เพื่อให้รับมือกับเรื่องน่าปวดหัวได้ไม่ล่าช้า HR จึงต้องจับกระแสความขัดแย้งหรือไม่ลงรอยกันของคนทำงานน้อยใหญ่ให้ได้มากที่สุด ว่าไป HR ก็เหมือนกับสายสืบที่ต้องรู้จักสร้างสายข่าวให้คอยส่งข่าวความไม่ชอบมาพากลที่ชวนให้ความสัมพันธ์ในการทำงานร้าวฉาน แล้วนำเรื่องมาขบคิดแก้ไข หากจับเรื่องพวกนี้ได้ไว การเข้าไปแก้ไขก็มักจะทันท่วงที สำคัญอยู่ที่ว่าต้องรู้จักดูกาละเทศะให้มากหน่อยเท่านั้น     

 

4) Sense of Logical and Creative Thinking 

HR จะทำงานให้ได้ผลบรรเจิดนั้น ผมคิดว่าต้องมีไอเดียที่ไม่ตีบตัน คิดสร้างสรรค์ได้กว้าง มีหัวพลิกแพลงแต่ไม่เล่ห์เหลี่ยม คู่กับมีตรรกะที่อธิบายได้ ทำงานแบบมี Concept ไม่ทึกทักเอาเอง มองงานแบบเป็นกระบวนการต่อเนื่องกัน ตรงตามสภาพที่มันเป็นและควรจะเป็น เพื่อผลักดันให้การทำงานเกิดผลลัพธ์ที่ดีเท่าที่จะเป็นไปได้ออกมา เชื่อมโยงจากภาพเล็กไปภาพใหญ่อย่างสอดคล้องต้องกันกับแผนงานที่วางไว้   

ผมเองทุกวันนี้ก็ยอมรับว่า การที่จบด้านรัฐศาสตร์ด้วยสติปัญญาที่มีนั้น ทำให้ผมขาด Logic ที่จะมองบางเรื่องได้อย่างคนที่เขาจบสายวิทยาศาสตร์กันมา และผมก็พร้อมที่จะฝึกฝนลับคมความคิดเพื่อให้คุยกับผู้บริหารระดับสูงได้อย่างทั้งแบบนอกกรอบได้และอธิบายสมเหตุผลด้วย Logic ที่เป็นไปได้  

 

5) Sense of Continuous Development

ผมเจาะจงหมายถึงการมี Sense ของการหมั่นฝึกฝนหาความรู้ในหน้าที่งาน เพื่อให้พร้อมบริการอยู่เสมอ ด้วยการตระหนักว่า ความรู้ในวงวิชาชีพ HR ปัจจุบันนั้นมีความเลื่อนไหลที่ไม่อาจจะเอาแนวปฏิบัติของเมื่อสิบปีก่อนมาใช้กับบริษัทของวันนี้ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัวทุกกรณี และยังต้องคิดที่จะทุ่มเทเพิ่มเสริมเติมแต่งเรื่องเหล่านี้เป็นระยะ ความรู้และแนวปฏิบัติใหม่ในงาน HR นั้นมีมากมายในตำราพวก How-to หรือมาจากการร่วมเรียนรู้และแลกเปลี่ยนกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เราสนใจ พร้อมกับไม่คิดว่าตัวเอง “เป็นคุณพ่อที่รู้ดีรู้ทุกเรื่อง” แบบที่อุปมาได้ว่าเป็น “น้ำเต็มแก้ว” เพราะจะทำให้ HR ตกยุคได้รวดเร็วแบบไม่คาดคิด และควรรู้ให้ “ลึก” ไม่รู้แค่ผิวเผิน เพราะนั่นอาจทำให้เราคิดเหมาไปแบบผิด ๆ ได้

 

หมั่นเสริมเติมความรู้ ลับคมมุมมองและฝึกฝนทักษะของเราให้ได้เช่นนี้ รับรองได้ขึ้นชื่อว่าเป็น HR มืออาชีพแน่แท้ครับ

 

 

รวมเรื่องราวน่ารู้ในงาน HR จากวิทยากรและที่ปรึกษาด้านการพัฒนาบุคลากร ผู้ผ่านประสบการณ์งานบริหาร HR จากองค์กรในโรงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจบริการ

สอบถามข้อมูลด้าน HR หรือแลกเปลี่ยนมุมมองได้ที่ 0-2514-7472 กด 6

หรือ E-mail : [email protected] (ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น)

 

Credit  :  อ.ชัชวาล อรวงศ์ศุภทัต  (Professional Training & Consultancy)

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top