กลายเป็นเรื่องชาชินสำหรับคนไทยเสียแล้ว กับเหตุฆ่ากันตาย ที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง แม้สมัยก่อน จะมีการลงภาพผ่านหนังสือพิมพ์ บางภาพก็ดูหวาดเสียว สยดสยอง หรือ สลดใจ แต่ภาพเหล่านั้น ยังได้ผ่านการคัดกรองมาบ้างแล้ว แต่ในปัจจุบัน หลังจากมีโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ myspace Hi5 กระทั่งมาถึง Facebook ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ถูกแชร์ให้เห็นกันจะจะ เรียกว่า "อันเซ็นเซอร์" กันเลยทีเดียว
สำหรับเหตุฆ่ากันตาย แม้จะมีสาเหตุที่แตกต่างออกไป แต่เหตุซึ่งหน้าส่วนใหญ่ ก็เพราะ "คนใจร้อนมีปืน" ทำกับว่า "ประเทศไทย" เป็นแดนคาวบอย ที่เอะอะเป็นยิง โดยไม่กลัวกฎหมาย บ้านเมืองไร้ขื่อแป ขนาดความผิดเรื่อง "พกปืนในที่สาธารณะ" ก็ยังไม่กลัวกัน เพราะหากมีอะไรนิดหน่อยก็ควักออกมาใช้แล้ว อีกทั้งเมื่อค้นในอินเทอร์เน็ต ก็พบว่า หาซื้อง่าย ราคาหลักพันก็หากันได้แล้ว
เหตุสะเทือนขวัญ ยิงกันบนรถเมล์
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีหลายเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคม "ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์" จึงรวบรวมมาเล่าย้อน เพื่อเตือนสติ คนที่คิดพกปืน ต้องครองสติเพื่อใช้ป้องกันไม่ใช่ ฆ่าฟันให้เสียเลือดเนื้อ
ย้อนรอยคดีดัง หุนหันพลันแล่น ยมทูตอยู่ที่ปลายนิ้ว
เมื่อปี 2555 เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้นบนรถเมล์ ครีมแดง สาย 59 เมื่อนักเรียนช่างสถาบันแห่งหนึ่ง พบกับโรงเรียนคู่อริ จึงลากปืนยิงใส่รถเมล์ บริเวณอาคารช่างการบินไทย ถนนวิภาวดี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 2 ศพ บาดเจ็บสาเหตุอีก 2 เมื่อมีการสอบปากคำ ก็พบว่า ไม่รู้จักผู้ตายเป็นการส่วนตัว เคยแต่มีเรื่องกับคู่อริ อยากขอโทษสิ่งที่ทำลงไป ส่วนปืนนั้น ซื้อมาในราคา 2 พันบาท!!?
เหตุการณ์ยิงเจ้าซื่อบื่อ
อีกเหตุการณ์ที่ทำให้คนรักสัตว์ถึงกับเดือดดาล เพราะผู้ก่อเหตุ ลงมือกับสัตว์แสนซื่ออย่างสุนัข ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวคือเกิดขึ้นไม่นานนี้ "เจ้าซื่อบื่อ" หมาพันธุ์ทางหน้าบิ๊กซี ลาดพร้าว เพียงเพราะขับรถผ่านแล้วถูกไล่เห่า หรือ กระทั่งไล่กัด แต่โทษของมันถึงขั้นต้องคว้าปืนมายิงให้ดิ้นตายเลยหรือ ซึ่งกรณีนี้ ผู้ก่อเหตุก็ต้องเจอกับข้อกฎหมายที่ใช้ล่าสุด คือ พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ซึ่งโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
มัจจุราชในมือ ครอบครองแล้วจะรู้สึกมีอำนาจ!
อีกคดี ที่คนสนใจอย่างมากเมื่อหลายเดือนก่อน เพราะหาก "ไม่มีปืน" มาเกี่ยวข้อง ผลลัพธ์อันเศร้าสลด คงไม่เกิดขึ้น เมื่อหัวหน้า รปภ.หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขอตรวจสอบลูกบ้านเรื่องเข้าออก เรื่องราวเริ่มบานปลาย และมีการโต้เถียงขึ้น จนกระทั่งลงมือทำร้ายกันขึ้น ฝ่ายสู้ไม่ได้เพราะมีอายุมากกว่าจึงได้คว้าปืนมายิงใส่ 3 นัด อีกฝ่ายเสียชีวิตทันที นี่ก็เพราะว่า "ปืน" ที่อยู่ในมือ หากวันนั้นไม่มียมทูตในมือ เชื่อว่าผลอาจจะจบลงดีกว่านี้
อย่างไรก็ดี เมื่อจะหาปืนมาใช้สักกระบอก ก็พบว่า ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพราะมีการโพสต์ขายกันอย่างโจ๋งครึ่ม เหมือนบ้านเมืองไร้ขื่อแป โดยเพจบางเพจในเฟซบุ๊กมีคนเข้ากดไลค์ กว่า 3 หมื่นคน โดยจากการค้นข้อมูลพบว่า วิธีการซื้อ ทางเพจต่าง ๆ เกือบทุกเพจ จะให้ผู้สนใจส่งข้อความเข้ามาพูดคุยหลังไมค์ และอาจจะส่งเลขบัญชีโอนเงิน โดยจะมีการส่งของให้ภายหลัง ซึ่งจากคอมเมนต์พบว่าผู้สนใจส่วนใหญ่ยังไม่มีความไว้วางใจ เนื่องจากกลัวว่าโอนเงินไปแล้วจะไม่ได้ของอย่างที่คุยไว้ในหน้าเพจเฟซบุ๊ก
รปภ.หมู่บ้านกับลูกบ้าน
แต่หากจะหาสถิติ "ปืน" ในประเทศไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ (ขณะนั้น) เมื่อปี 2555 ได้ตอบกระทู้ถามในเรื่องการควบคุมอาวุธปืนว่า ทางกระทรวงมหาดไทย ได้เก็บข้อมูลทะเบียนอาวุธปืนแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่ปี 2550-2554 พบว่า อาวุธปืนที่ให้บุคคลครอบครองมี 2 ประเภท คือ อาวุธปืนสั้น จำนวน 3,744,877 กระบอก และอาวุธปืนยาว จำนวน 2,476,303 กระบอก รวมจำนวน 6,221,180 กระบอก นี่ขนาดเป็นอาวุธที่ถูกกฎหมาย ยังมีมากถึง 6.2 ล้านกระบอก อีกทั้งยังเป็นข้อมูลเมื่อหลายปีก่อน คาดว่าปัจจุบัน อาจจะมีมากกว่า 6.2 ล้านกระบอกก็เป็นได้
สำหรับตอนหน้า ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ลงพื้นที่สำรวจร้านปืน พร้อมกับเฉลยขั้นตอนการขอซื้อปืนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ว่ายากเย็นแค่ไหน โปรดติดตามในตอนหน้า
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
