อยากได้งานด่วน 3 เรื่องง่ายๆ ที่ห้ามขี้เกียจ

  • 24 Jan 2025
  • 11635
หางาน,สมัครงาน,งาน,อยากได้งานด่วน 3 เรื่องง่ายๆ ที่ห้ามขี้เกียจ

 

ใครที่กำลังหางานด่วน ต้องการงานด่วน ต่อจากนี้ไปห้ามขี้เกียจเด็ดขาดนะครับ

แค่ 3 เรื่องง่ายๆ เริ่มเลย...

 

 

 

 

ห้ามขี้เกียจอ่าน (ประกาศงาน)

นอกจากต้องติดตามประกาศงานที่เราอัพเดทให้คุณทุกวันแล้ว คุณต้องอ่านข้อมูลงานทั้งหมดด้วย อย่ามัวรอถามใครเลยครับ เพราะในประกาศงานมีข้อมูลครบอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่ง - รายละเอียดงาน ,รายได้ ,สถานที่ทำงาน ,สวัสดิการ ฯลฯ ถ้างานนั้นใช่สำหรับคุณ สมัครเลยครับ

แต่บางครั้งอาจมีหมายเหตุต่างๆ ที่ทางบริษัทระบุเพิ่มเติม  เช่น ช่วงระยะเวลาที่เปิดรับสมัคร ซึ่งถ้าพลาดข้อมูลนี้ไป ก็อาจพลาดงานนี้ด้วย อย่าลืมอ่านให้ครบด้วยนะครับ

 

ห้ามขี้เกียจอ่าน (เรซูเม่)

ก่อนจะส่งเรซูเม่ไปสมัครงาน คุณต้องอ่านเพื่อตรวจสอบว่า ข้อความที่พิมพ์นั้นถูกต้องทั้งหมดและให้ข้อมูลครบถ้วน  เพราะถ้าพิมพ์ผิด First impression คือพังตั้งแต่ยังไม่เรียกสัมภาษณ์เลยนะครับ เพราะมันแสดงว่า คุณไม่ใส่ใจและไม่มีความเป็นมืออาชีพ (ทุกบริษัทล้วนต้องการมืออาชีพเข้ามาทำงาน)  หรือถ้าข้อมูลผิดโดยเฉพาะเบอร์โทร –  E-mail ทาง HR ก็ไม่สามารถติดต่อคุณได้นะครับ

 

ห้ามขี้เกียจอ่าน (ข้อมูลก่อนไปสัมภาษณ์งาน)

นอกจากต้องเตรียม Present ความสามารถของคุณ สิ่งสำคัญที่ต้องศึกษาเพิ่ม คือการอ่านข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนั้น ไม่ว่าจะเป็น ประเภทธุรกิจ ,ชื่อผู้ก่อตั้ง, ระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ รวมถึงข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร เพราะต้องตอบให้ได้ว่า คุณจะนำทักษะที่มีอยู่มาใช้ในการพัฒนาบริษัทนั้นได้อย่างไร ซึ่งวันสัมภาษณ์ อาจมีกรณีตัวอย่างมาให้คุณลองแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรืออาจให้ลองวางกลยุทธ์ต่างๆ ก็เป็นได้ครับ

 

 

 

ห้ามขี้เกียจเขียน (เรซูเม่)

คุณเองก็ต้องการทราบรายละเอียดงาน  เพื่อดูว่าเหมาะกับคุณรึเปล่า  ทางบริษัทก็ต้องการข้อมูลที่เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับคุณ เพื่อนำมาพิจารณาคุณเข้าทำงานเช่นกันครับ ฉะนั้น คุณต้องอธิบายออกมาให้ละเอียดและครบถ้วน ซึ่งจะมีอย่างน้อย 2 อย่าง ที่คุณต้องเขียน คือ

1 เรซูเม่ออนไลน์ของ  JOBBKK.COM จะเป็นข้อมูลที่ HR นำไปพิจารณาเรียกสัมภาษณ์งาน

2 ใบสมัครงานของบริษัท จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่สมัคร เพื่อให้ HR พิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งคุณต้องเขียนเพิ่มในวันสัมภาษณ์งาน

 

ทั้ง 2 อย่างนี้ นอกจากข้อมูลส่วนตัวที่ต้องกรอกให้ครบและถูกต้อง ส่วนที่เป็นข้อมูลด้านประสบการณ์ คุณต้องบอกให้ละเอียดด้วยว่าเคยทำงานอะไร ,ระยะเวลาเท่าไร ,ปัญหาหลักๆที่เจอคืออะไร ,มีกลยุทธ์อะไรที่นำมาแก้ปัญหา แล้วกลยุทธ์นั้นนำไปปรับใช้ในตำแหน่งงานที่คุณสมัครได้อย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้ ห้ามขี้เกียจเขียนเด็ดขาดเลยนะครับ

 

เช่น ต้องการสมัครตำแหน่ง Content Marketing  เคยทำงานตำแหน่งแอดมินดูแลเพจ Facebook  มีหน้าที่ตอบแชท ตอบคอมเมนต์ และเขียนแคปชั่น ได้ศึกษากลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ โดยการสังเกตการทำโฆษณาบนเพจ คือ

 

Artwork ที่เน้นใส่ชื่อกับราคาสินค้าตัวใหญ่ๆ และอยู่ด้านบน แล้วใส่ข้อมูลด้านสรรพคุณเพียงเล็กน้อยไว้ด้านล่างตัวเล็กๆ ผลตอบรับจะมีแค่ยอด Reach หรือยอดคนเห็นโฆษณาจำนวนมาก แต่จำนวนคนสั่งซื้อจะมีน้อย แต่ Artwork ที่เน้นให้ข้อมูลด้านสรรพคุณของสินค้าตัวใหญ่ๆและอยู่ด้านบน  แล้วใส่ราคากับชื่อสินค้าไว้ด้านล่างเล็กๆ ผลตอบรับจะมีทั้งยอด Reach และคนสั่งซื้อจำนวนมากกว่า

 

จึงได้ข้อสรุปว่า พฤติกรรมผู้บริโภคใน Facebook จะนิยมอ่านข้อความในภาพก่อน และจะไม่เสียเวลาอ่านเยอะ แล้วถ้าข้อมูลที่เห็นในแวบแรกเป็นประโยชน์ (ซึ่งก็คือข้อความที่เน้นขนาดใหญ่) เขาถึงจะอ่านข้อมูลเพิ่มเติมและถ้าสนใจก็จะสั่งซื้อ แต่ถ้าแวบแรกที่เห็นแล้วไม่ได้เป็นประโยชน์สำหรับเขา หรือรู้ว่าต้องเสียอะไรสักอย่าง (เสียเงินนั่นแหละ) โอกาสที่เขาจะเลื่อนผ่านเฉยๆ นั้นมีมากกว่าที่จะเข้ามาดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม

 

ดังนั้น กลยุทธ์ของการตลาดออนไลน์คือ ด่านแรกต้องให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า เพื่อให้เขาเปิดใจ ด่านที่สองคือการให้ข้อมูลเพิ่มเติมในแคปชั่นหรือช่องทางต่างๆ ที่ลูกค้าสอบถามเข้ามา ซึ่งข้อมูลนั้นต้องอ่านแล้วเข้าใจง่ายด้วย โดยเฉพาะข้อมูลในการสั่งซื้อ เป็นด่านสุดท้ายที่ลูกค้าต้องได้รับความสะดวก อย่าให้มีหลายขั้นตอนเกินไป เพื่อให้เขาเกิดความประทับใจและกลับมาหาเรา พร้อมทำการตลาดแบบปากต่อปากให้เราอีกด้วย

 

 

 

ห้ามขี้เกียจพูด (แนะนำตัวเอง)

เลิกอ้างว่า ไม่รู้จะอธิบายยังไง เรียบเรียงไม่ถูก มันพูดยาก พูดไปเขาก็ไม่เข้าใจหรอก

แล้วใครจะอยากรับคนพูดไม่รู้เรื่องเข้ามาทำงาน ? ประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละ คุณถึงต้องฝึกพูดไง ต่อให้คุณเก่งแค่ไหน มีความสามารถระดับเทพ แต่คุณก็รู้อยู่คนเดียวนะครับ คนอื่นเขาจะรู้ได้อย่างไร ถ้าคุณไม่พูดให้เขาฟัง

 

จริงอยู่  HR อาจรู้อยู่บ้างว่าคุณมีความสามารถระดับไหนจาก Portfolio แต่คุณก็ต้อง Present ความสามารถของตัวเองออกมาได้ด้วย ที่สำคัญคือต้องพูดออกมาให้น่าสนใจด้วยนะครับ ซึ่งก็คือ การพูดที่นำเสนอได้ว่า ความสามารถที่คุณมีอยู่จะนำมาใช้ในตำแหน่งงานที่สมัครเพื่อพัฒนาบริษัทนั้นได้อย่างไร

 

ตัวอย่าง

คุณสมัครตำแหน่ง Content Marketing  เคยทำงานตำแหน่งแอดมินดูแลเพจ Facebook ได้ศึกษากลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ โดยการสังเกตการทำโฆษณาบนเพจ ทำให้เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคใน Facebook ที่จะนำมาเป็นกลยุทธ์ในการสร้าง Content ที่สามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมได้ 

 

ซึ่งก็คือ Content ที่ทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงประโยชน์ได้ตั้งแต่แรกเห็น จากการสื่อสารสรรพคุณของสินค้าผ่านรูปภาพหรือ Artwork ก่อน และต่อมาคือการเขียนแคปชั่นที่ให้ข้อมูลครบ อ่านเข้าใจง่าย

 

อย่าให้ Content  เป็นแค่การขายของที่เน้นสื่อสารเฉพาะชื่อสินค้าและราคาเพียงอย่างเดียว เพราะลูกค้าจะเปิดใจและจะอยู่กับเราต่อไปเมื่อเห็นว่าสินค้ามีประโยชน์จริง

 

นอกจากนี้ ช่วงเวลาที่โพสต์ก็ต้องวิเคราะห์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้ Facebook  ของกลุ่มเป้าหมายด้วย เช่น สินค้าป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ กลุ่มเป้าหมายที่เน้นก็ต้องเป็นคนรักสุขภาพ ฉะนั้น เพื่อให้ Content เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายสูงสุด การเลือกเวลาโพสต์ก็ต้องเป็นช่วงก่อน 4 ทุ่ม เพราะคนรักสุขภาพส่วนใหญ่จะไม่นอนดึก

 

รวมถึงการแชร์โพสต์ลงกลุ่ม เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา ก็ต้องเลือกกลุ่มที่สอดคล้องกับสินค้าพร้อมเลือกเวลาในการแชร์ที่ตรงกับพฤติกรรมการใช้  Facebook  ของกลุ่มเป้าหมายด้วย ไม่ใช่สักแต่ว่าแชร์ไปเยอะๆ แบบนั้นอาจโดน  Block และยังทำให้เสียเวลาในการทำงานอีกด้วย

 

อย่าลืมนะครับ หลักสำคัญที่สุด คือต้องพูดให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่า คุณพร้อมเข้ามาทำงานเพราะคุณคือคนที่สามารถเข้ามาพัฒนางานในตำแหน่งนั้นได้จริง

 

3 เรื่องง่ายๆ แค่นี้ ถ้าลงมือทำ ยังไงงานก็ต้องมาหาคุณแน่นอนครับ

JOBBKK เชื่อว่าคุณทำได้อยู่แล้ว

 

 

หางานด่วน คลิกเลย

สมัครเรซูเม่ด่วน คลิกเลย

Job Fair Online ครั้งที่ 8 คลิกเลย

รวมสายงาน วิศวกร – ช่าง คลิกเลย

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top