สะใจทั้งประเทศ ถล่มมาเลย์2-0

  • 11 พ.ค. 2563
  • 1295
หางาน,สมัครงาน,งาน,สะใจทั้งประเทศ ถล่มมาเลย์2-0

กระแสบอลไทยกระหึ่ม เก็บชัยซูซูกิคัพนัดแรก 20ธ.ค.บุกถํ้าเสือเหลือง

ขุนพลนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มสุดยอด สะใจชาวไทยทั้งประเทศ ไล่ถล่มเอาชนะ “เสือเหลือง” มาเลเซีย 2-0 “สุดหล่อ” ชาริล ชัปปุยส์ ซัดจุดโทษนำร่อง ก่อนที่เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ จะยิงส่งท้าย ช่วงชิงความได้เปรียบในรอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน หรือเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ไว้ได้ ก่อนจะไปชี้ชะตานัดที่ 2 วันที่ 20 ธ.ค. ที่บ้านมาเลเซีย “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมช้างศึก ชื่นชมลูกทีมไม่ทำให้ผิดหวัง แต่ภารกิจยังเหลืออีก 1 เกมที่ต้องทำให้สำเร็จ มั่นใจแชมป์ซูซูกิ คัพ ในรอบ 12 ปี จะคว้ากลับบ้านได้ ขณะที่ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ซูฮกนักเตะไทยทุกคน เล่นได้อย่างสมศักดิ์ศรี ยิ่งใหญ่ แต่ยังมีภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จที่แดนเสือเหลืองอีกนัด เชื่อได้ฉลองกันทั้งประเทศแน่ โดยหากทีมไทยคว้าแชมป์จะเติมอัดฉีดให้ครบ 25 ล้านบาทด้วย ด้านดอลลาห์ ซาเลห์ เฮดโค้ชของมาเลเซีย ยอมรับนักเตะไทยเล่นดีกว่า การพ่ายแพ้ 0-2 เป็นงานที่ยาก แต่ก็ยังเหลือเวลาอีก 90 นาที อะไรก็เกิดขึ้นได้

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน หรือเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก เมื่อวันพุธที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา เป็นการฟาดแข้งในรอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ทีม “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ “เสือเหลือง” มาเลเซีย ในโอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า สิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จทอดพระเนตรการแข่งขัน พร้อมเป็นกำลังใจให้นักเตะช้างศึก ท่ามกลางแฟนบอลชาวไทยที่แห่ล้นทะลักเข้ามาชมเกมที่สนามเกือบเต็มความจุของสนาม 5 หมื่นที่นั่ง ขณะเดียวกันก็มีแฟนบอลของมาเลเซียเดินทางเข้ามาเชียร์ทีมรักของพวกเขาด้วยราว 3 พันคน

สำหรับบรรยากาศก่อนเกม แฟนบอลชาวไทย ที่พร้อมใจกันสวมชุดแข่งของทีมชาติไทย ต่างทยอยมาถึงสนามกันตั้งแต่ช่วงบ่าย เพื่อซึมซับบรรยากาศที่ฟุตบอลไทยกำลังอยู่ในช่วงฟีเวอร์สุดๆ จากนั้นในช่วงเย็น แฟนบอลก็เดินทางมาถึงสนามกันหนาแน่น เพื่อเตรียมเข้าชมเกมสำคัญ ทั้งนี้โดยรอบสนามแฟนบอลชาวไทยพร้อมใจกันร้องเพลงสร้างกำลังใจกันอย่างคึกคัก โบกธงชาติไทย สร้างความฮึกเหิมก่อนเข้าเชียร์ข่มขวัญคู่แข่ง พร้อมกันนี้ยังมีป้ายที่รณรงค์การไม่ซื้อตั๋วผีหน้าสนามอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการตั้งจอภาพขนาดใหญ่ให้แฟนบอลที่พลาดหาซื้อตั๋วไม่ได้ ได้ดูเกมไปพร้อมๆกันรอบสนามอีกด้วย

โดยผู้เล่น 11 คนแรกของทีมชาติไทยที่ลงสนามในระบบ 4-3-3 เป็นไปตามความคาดหมาย ดังนี้ ผู้รักษาประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์ แผงกองหลัง 4 คน แบ็กซ้าย พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา คู่เซ็นเตอร์แบ็ก สุทธินันท์ พุกหอม จับคู่กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แบ็กขวา นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม กองกลาง 3 คน สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์ และ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ส่วนแนวรุกด้านซ้าย “เจ้าก้อง” เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ฮีโร่ที่ซัดคนเดียว 2 ตุง ในรอบรองชนะเลิศนัด 2 ซึ่งชนะฟิลิปปินส์ 3-0 ด้านขวา มงคล ทศไกร ส่วนกองหน้าตัวเป้าเป็น “เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร ที่พ้นโทษแบนกลับลงมายืนล่าตาข่ายได้อีกครั้ง

เกมครึ่งแรกเล่นไปแค่ 3 นาที มาเลเซียเป็นฝ่ายทักทายก่อน จากการโหม่งของ โมฮัมเหม็ด ยาห์ยา แต่ไปตรงตัวกวิน ถัดมานาทีเดียวไทยก็ได้เสียวบ้าง เมื่อนฤบดินทร์ลากไปสุดเส้นทางขวาก่อนตบบอลกลับหลังมาให้ แต่มงคล ที่ยืนอยู่โล่งๆ ซัดข้ามคานไปไกล นาทีที่ 6 เสือเหลืองก็เกือบได้ประตูนำบ้าง เมื่อ นอร์ชาห์รูล บิน ทาลาฮา วิ่งแซงกองหลังไทยหลุดเข้าไปยิง แต่กวินโชว์ซุปเปอร์เซฟบินปัดไว้ได้ นาทีที่ 7 ไทยเอาคืนบ้าง ชนาธิปแทงบอลให้เกริกฤทธิ์หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปส่องเต็มๆ แต่ลูกเฉียดเสาแรกออกอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 30 สารัชลองกดด้วยซ้ายนอกกรอบแต่บอลเบาเกินไปเข้าซองนายทวารมาเลเซีย

นาทีที่ 42 ทีมไทยก็เกือบขึ้นนำเป็นที่สุด จากจังหวะที่กองหลังมาเลเซียโหม่งสกัดพลาด อดิศักดิ์ ฉกบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงจ่อๆ แต่ช้าเกินไปผู้รักษาประตูของทีมเสือเหลืองออกมาบล็อกลูกปลิ้นออกหลังหวุดหวิด ช่วงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก กรรมการก็เรียกเสียงโห่จากแฟนๆ ดังสนั่น หลังเป่านกหวีดหมดเวลาก่อนทั้งๆ ที่นาฬิกาบนสกอร์บอร์ดแจ้งเตือนเพียงแค่นาทีที่ 44 เท่านั้น จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมยังเสมอกัน 0-0

เกมครึ่งหลังเล่นไป 8 นาที ไทยมีโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อนฤบดินทร์หลุดไปทางกราบขวา ก่อนจะตบบอลเข้ากลางให้มงคลได้ซัดเต็มข้อ แต่ลูกเหินข้ามคานไปอีก ถัดมาอีก 2 นาที ชัปปุยส์เปิดบอลจากกราบขวาไปให้เกริกฤทธิ์ที่ยืนอยู่เสาสอง แต่เจ้าตัวยิงบอลไม่เต็มเท้าบอลเลยโด่งถูกกองหลังมาเลเซียเคลียร์ออกไปได้ นาทีที่ 67 นักเตะไทยทำชิ่งกันก่อนที่อดิศักดิ์จะได้วอลเลย์ด้วยขวาแต่ลูกไปเข้าซองนายทวารมาเลเซีย นาทีที่ 70 กองเชียร์ไทยก็ได้เฮจนได้เมื่อโมฮัมเหม็ด บิน ชาส ไปทำฟาวล์ อดิศักดิ์ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกโทษที่จุดโทษทันที และชาริล ชัปปุยส์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทีมไทยขึ้นนำ 1-0

จากนั้นมาเลเซียที่โดนนำก็เร่งเครื่องหวังทวงประตูคืน แต่แล้วนาทีที่ 80 ทีมไทยสวนกลับจนได้เรื่องอีกครั้ง จากในจังหวะที่ชนาธิปกระชากหลุดกองหลังมาเลเซียมาได้ และป้ายบอลมากลางประตูให้เกริกฤทธิ์จบสกอร์พาทีมไทยนำห่าง 2-0 อย่างสวยงาม นาทีที่ 88 ทีมไทยทำชิ่งกันเป็นสิบครั้ง เรียกเสียงเฮของแฟนบอลกระหึ่ม ก่อนที่ชัปปุยส์จะยิงถากเสาออกนิดเดียว ช่วงท้ายนักเตะมาเลเซียเริ่มเล่นติดดาบน่าเกลียดใส่นักเตะไทยหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล จบเกมทีม “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เอาชนะ “เสือเหลือง” มาเลเซีย ไปได้ก่อน 2-0 พร้อมรับเงินอัดฉีดจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยไปอีก 1 ล้านบาท ส่วนเกมรอบชิงชนะเลิศ นัดที่2 จะไปเตะกันที่สนามบูกิต จาลิล กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้

หลังจบเกม “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีมไทย เปิดเผยในห้องแถลงข่าวว่า วันนี้ต้องขอบคุณแฟนบอลอีกครั้งที่เข้ามาให้กำลังใจทีมเราจนเต็มสนาม มาเลเซียไม่ได้มาเล่นอุด เค้าเปิดเกมบุกใส่เราด้วย ดังนั้นช่วงแรกเราจึงเล่นแบบระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าแฟนบอลจะได้สนุกสนานกับเกมที่เร้าใจในวันนี้ เราพอใจกับชัยชนะที่ได้ในวันนี้ แต่เรายังไม่สิ้นสุดเส้นทาง เป้าหมายคือการคว้าแชมป์ให้ได้เท่านั้น ตอนนี้มองไปถึงเกมที่มาเลเซีย ในวันที่ 20 ธ.ค. แล้ว แน่นอนในเกมหน้าเราต้องเล่นต่อหน้าแฟนบอลมาเลเซียเกือบแสนคน เป็นงานที่ยากแน่นอน แต่ก็จะเป็นบทพิสูจน์นักเตะของเราว่าจะทนแรงกดดันต่างๆได้หรือไม่ หากทำได้ก็สมควรที่จะเป็นแชมป์ ซึ่งหากทำสำเร็จจะเป็นการได้แชมป์ในรอบ 12 ปี

ขณะที่ดอลลาห์ ซาเลห์ เฮดโค้ชของมาเลเซีย กล่าวว่า เกมในครึ่งแรกและช่วงต้นครึ่งหลังเราเล่นกันได้ดี แต่พอนาทีที่ 70 ไปแล้วกองหลังของเราเริ่มมีปัญหา เกมนี้ทีมไทยเล่นได้ดี และการแพ้ 0-2 เป็นงานที่ยากไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็มองผ่านจุดนั้นไปแล้ว ตอนนี้ตนคิดว่ามีอีก 90 นาที ที่บูกิตจาลิล ให้เราเล่น ต้องพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ด้าน “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ขอชื่นชมนักเตะทุกคนที่เล่นได้อย่างสมศักดิ์ศรี ยิ่งใหญ่ ถือเป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ แต่เรายังมีภารกิจอีกหนึ่งนัดที่จะต้องไปให้ถึงฝั่ง การเล่นที่ทุ่มเทของนักเตะทุกคนด้วยแนวทางการเล่นต่อบอลได้อย่างชนะใจแฟนบอลในวันนี้ ถือเป็นเรื่องที่มีคุณค่า ในเกมวันเสาร์ที่จะถึงนี้ขอให้ทุกคนเล่นกันอย่างเต็มที่ เพื่อการครองแชมป์ที่สมภาคภูมิ เพื่อแฟนบอลชาวไทยจะได้ฉลองร่วมกัน โดยหากทีมไทยคว้าแชมป์จะเติมเงินอัดฉีดให้นักเตะครบ 25 ล้านบาทด้วย

ทั้งนี้ในส่วนของเงินอัดฉีด ทีมชาติไทยสะสมไปก่อนหน้านี้แล้ว 4.6 ล้านบาท ทำให้ยอดรวมหลังชนะมาเลเซียนัดแรกเป็น 5.6 ล้านบาท และถ้าทีมไทยเอาชนะมาเลเซียในนัดที่ 2 ได้อีกจะรับจากสมาคมฟุตบอลอีก 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากทีมไทยคว้าแชมป์ได้สำเร็จจะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดรวม 25 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินรางวัลจากฝ่ายจัดการแข่งขัน 6.4 ล้านบาท โหลทอง โฮลดิ้ง 7 ล้านบาท และจากสมาคมฟุตบอลฯที่สมทบให้ (รวมเงินสะสมจากรอบแรก) 11.6 ล้านบาท

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top