เทรนด์คนทำงานปี 2023 สิ่งที่องค์กรต้องปรับเปลี่ยน เพื่อหาคนได้ง่ายขึ้น ?

  • 23 พ.ค. 2566
  • 989
หางาน,สมัครงาน,งาน,เทรนด์คนทำงานปี 2023 สิ่งที่องค์กรต้องปรับเปลี่ยน เพื่อหาคนได้ง่ายขึ้น ?

 

โควิด19 ทำให้การใช้ชีวิตต้องเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างตระหนักถึงการเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะการเลือกอาชีพและรูปแบบการทำงาน

 

ส่งผลให้การหาคนทำงานยากขึ้นกว่าเดิม หากองค์กรไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ อาจทำให้การหาคนเกิดความล่าช้า กระทบต่อการทำงานภายในหลายอย่าง หรือยิ่งกว่านั้น อาจหาคนไม่ได้เลย !!  

 

แล้วองค์กรต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง ?

เรามาสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเทรนด์คนทำงานปี 2023 กันก่อนเลยค่ะ

 

1 จากสถานการณ์ช่วงต้นปี 2020 คนทำงานกระจัดกระจายกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดแบบไม่ทันตั้งตัว บางส่วนหางานทำที่บ้านแบบถาวร เพราะกังวลกับสถานการณ์เลิกจ้างที่อาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

 

2 คนที่ยังทำงานประจำมองว่า การมีรายได้ทางเดียว ทำให้ชีวิตไม่มั่นคง หากทำงานประจำก็ต้องทำงานนอกด้วย

 

3 หลายคนหันมาสนใจและเริ่มทำงานรูปแบบ Freelancer (การรับจ้างทำงานเป็น Project ทั้งแบบระยะยาวหรือสั้น), Gig Worker (เป็นแรงงานอิสระที่ทำงานในระยะสั้นๆ ตามความต้องการของตนเอง), ขายของออนไลน์ เนื่องจากต้องการอิสระในการใช้ชีวิตมากกว่าการทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับ

 

4 เรซูเม่ในเว็บไซต์ประกาศงานมีจำนวนน้อยลงเรื่อย ๆ เนื่องจากคนทำงานหันไปอยู่ในช่องทางหางานอิสระมากขึ้น หรือเลือกทำธุรกิจส่วนตัว

 

จากเหตุการณ์ทั้ง 4 ข้อนี้ HR Buddy มีสรุป 3 เรื่องหลักที่องค์กรจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน เพื่อเพิ่มโอกาสในการหาคนทำงานได้ง่ายขึ้น

 

1 การทบทวนนโยบายในการจ้างงาน เช่น

1.1ไม่ปิดกั้นเรื่องการรับงานนอกของคนทำงานประจำ แต่อาจมีเงื่อนไขว่าต้องไม่กระทบกับงานหลักที่รับผิดชอบ

1.2 ปรับนโยบายการว่าจ้างตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เช่น การจ้างในรูปแบบ Freelancer หรือ Gig Worker เพิ่มเข้ามา (สำหรับลักษณะงานที่เหมาะสม)

1.3 ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็น Work From Home หรือ Hybrid (สำหรับตำแหน่งที่เหมาะสม) เพื่อดึงดูดให้คนสนใจสมัครงานมากขึ้น และรักษาคนเก่าได้นานขึ้นด้วย

1.4 ใช้บริการ Outsourcing บ้างในบางตำแหน่ง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานในระยะยาว

 

2 เงินเดือนไม่ควรต่ำกว่าตลาดมาก หมั่นสำรวจว่า องค์กรอื่นๆ ที่ประกาศรับสมัครงานตำแหน่งเดียวกับที่เรากำลังจะลงประกาศหรือคล้ายกัน เขาจ้างที่เท่าไร ถ้าองค์กรเราจ้างต่ำกว่า ต้องปรับเพิ่มหรือไม่ หรืออาจต้องเพิ่มสวัสดิการพิเศษมาสร้างจุดเด่นและลบล้างข้อด้อยนี้ค่ะ

 

3 การเพิ่มสวัสดิการพิเศษด้านสุขภาพ เนื่องจากคนเกิดความตระหนักว่า เรามีโอกาสเจ็บป่วยง่ายกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะโรคติดต่อ และไม่สามารถวินิจฉัยได้ง่าย เพราะอาการที่ปรากฏคล้ายคลึงกัน คนทำงานจึงหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น องค์กรไหนมีบริการด้านสุขภาพที่พิเศษกว่าหรือมากกว่า ก็ดึงดูดให้คนสนใจร่วมงานได้มาก แต่อย่าลืม PR เรื่องนี้ให้ภายนอกรับรู้ด้วยนะคะ

 

ตัวอย่างโครงการ เช่น ระบบการปรึกษาคุณหมอออนไลน์ (สำหรับพนักงานเท่านั้น), การเพิ่มโปรแกรมการตรวจสุขภาพที่ละเอียดหลากหลายมากขึ้น จาก 1 ครั้งต่อปี อาจปรับให้ถี่ขึ้น หรือการให้สวัสดิการไปถึงครอบครัวของพนักงานด้วยก็ยิ่งดีเลยค่ะ

 

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมคนทำงานโดยสรุปคือ ต้องการความยืดหยุ่นในเรื่องเวลาส่วนตัวและสถานที่ทำงานมากขึ้น  เรื่องนี้คือกุญแจหลักที่องค์กรต้องนำไปปรับใช้เลยค่ะ หลายองค์กรต่างนำส่วนนี้มาแข่งขันกัน ใครมีน้อยกว่าย่อมเสียเปรียบ แต่ถ้าไม่มีก็จะลำบากในการแข่งขันสำหรับยุคนี้ไปเลยค่ะ

 

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้เลยค่ะ https://www.facebook.com/hrbuddybyjobbkk

ขอบคุณข้อมูล :  อาจารย์ พรเทพ พงษ์สง่างาน  ที่ปรึกษาอาวุโสด้าน HR และกรรมการ บริษัท เซ็นเมนทอร์ จำกัด ,กรรมการบริหาร APK Management Center

Website : www.senmentor.com

Line : wisebrown

Tel : 081-820-9271

 

สอบถามเพิ่มเติมสำหรับ HR : 02-514-7474 ต่อ 3

อีเมล : [email protected]

Line : @jobbkkvip (อย่าลืมใส่ @)

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top