นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยในการรายงานภาวะเศรษฐกิจโลกร่วมกับธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะมีหลายปัจจัยกดดัน โดยระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายจากการทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ของยุโรปและญี่ปุ่น ส่วนระยะกลางมีความเสี่ยงจากการเมืองในประเทศ และในระยะยาวมีความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการส่งออกที่เคยเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ ขยายตัวลดลง เพราะมีปัญหาด้านขีดความสามารถในการแข่งขัน “แม้ราคาน้ำมันลดลงมาก แต่มีผลดีต่อการบริโภคในประเทศน้อย เพราะไทยมีหนี้ครัวเรือนสูง โดยเฉพาะโครงการรถยนต์คันแรกที่ใช้เวลาอีก 2-3 ปีจึงจะดีขึ้น บวกกับหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลสูง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ จึงหวังให้การบริโภคภาคเอกชนเป็นตัวหลักได้ยาก และหวังการบริโภคภาครัฐช่วยกระตุ้นยาก เพราะรัฐบาลนี้ไม่เน้นใช้จ่ายเพิ่ม แต่ก็พอหวังได้จากการลงทุนภาครัฐ ซึ่งน่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจในอีก 2-3 ปีข้างหน้า”
ด้านนายไอฮาน โคเซ ผู้อำนวยการฝ่ายแนวโน้มการพัฒนาของธนาคารโลก กล่าวว่า ปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะโต 3% สูงกว่าปี 57 ที่คาดโต 2.3% และปี 59 คาดขยายตัว 3.3% โดยยังมีความเสี่ยงจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินต่างกันมาก และยังไม่แน่นอนว่าเศรษฐกิจที่ดีของสหรัฐฯจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจโลกได้ เพราะเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นยังมีปัญหา ขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอลง ส่วน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัสเซียลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 3% จะไม่กระทบการค้ากับไทย เพราะมีมูลค่าไม่มากนัก และแม้เอกชนกังวลจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียมาไทยอาจลดลง แต่จำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียเดือน ม.ค. แตะ 2.8 ล้านคน จากช่วงก่อนหน้านี้ที่ 2.3 ล้านคน “เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ 4% การส่งออกอาจขยายตัว 4% แม้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าจากนักลงทุนต่างชาติที่นำเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น แต่แบงก์ชาติมีมาตรการรับมือเม็ดเงินไหลเข้าที่ดี”.
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
